รมว.พลังงานร่วมประชุมรมต.พลังงานเอเชีย หนุนใช้เชื้อเพลิงอื่นผลิตไฟฟ้ารับมือน้ำมันผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 11, 2015 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย ครั้งที่ 6 (The 6th ASIAN Ministerial Energy Roundtable : AMER) ภายใต้หัวข้อหลัก “The New Energy Landscape : What Role for Asia?" ณ กรุงโดฮา นครรัฐกาตาร์ เมื่อวันที่ 8 -10 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา โดยได้หารือร่วมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และนำเข้าน้ำมันในทวีปเอเซีย 21 ประเทศ และ 5 องค์กรหลักด้านพลังงานของโลก ได้แก่ OPEC, IEA, IEF, OFID และ OAPEC เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือรับสถานการณ์พลังงานโลก พร้อมได้หารือทวิภาคีกับกาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และญี่ปุ่น

พลเอกอนันตพร กล่าวว่า ภายในการประชุมฯ ได้หารือถึงสถานการณ์ตลาดน้ำมันที่มีความผันผวนซึ่งอาจจะกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค และโอกาสในการใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในการเป็นแหล่งทรัพยากรในการผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงแนวทางนโยบายในการเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียเอเชีย โดยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ได้มีข้อตกลงร่วมกันในด้านการให้ความสำคัญของการเจรจาระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องระหว่างประเทศผู้ผลิตและประเทศผู้บริโภค เพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาของทุกประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องคำนึงถึงการดำเนินงานเพื่อความมั่นคงทางด้านการลงทุนในสาขาภาคพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในอนาคตและสร้างความสมดุลของตลาด โดยมองว่าเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตของโลก ขึ้นอยู่กับความมั่นคงและความโปร่งใสด้านนโยบายพลังงานของเอเชีย

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ได้มีโอกาสนำเสนอถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาพลังงานในมิติต่างๆ เช่น การกระจายความเสี่ยงในการเลือกใช้เชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า การลดการอุดหนุนชดเชยราคาพลังงานที่ไม่จำเป็น และการเอาจริงเอาจังในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน ให้ประเทศสมาชิกได้รับทราบถึงความเคลื่อนไหวด้านสถานการณ์พลังงานของประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือทวิภาคีกับหัวหน้าคณะจากประเทศต่างๆ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และญี่ปุ่น โดยการหารือกับประเทศกาตาร์นั้นประเทศไทยจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศกาตาร์ ส่วนประเทศกาตาร์จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย โดยจะมีโครงการความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาประเทศกาตาร์ได้ให้การสนับสนุนบมจ.ปตท.(PTT) ในด้านการจัดหา LNG ให้กับไทยมาอย่างต่อเนื่องภายใต้สัญญาระยะยาว และทางกาตาร์ได้กล่าวชื่นชมไทยว่าเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพเหมาะกับการลงทุน

สำหรับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้หารือถึงแนวทางการขยายความร่วมมือด้านพลังงานในอนาคต ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในสัดส่วนที่สูงที่สุด รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างการปิโตรเลียมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ADNOC และ ปตท. รวมถึงการหารือเรื่องความเป็นไปได้ในการที่ ปตท. จะเข้าไปร่วมลงทุนในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่จะมีการเปิดให้ลงทุนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในอนาคต

ส่วนการหารือกับประเทศญี่ปุ่น นั้นได้เสนอความร่วมมือในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดให้กับประเทศไทย ซึ่งทางญี่ปุ่นมีตัวอย่างของโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ให้ประเทศไทยได้ร่วมศึกษา

อนึ่ง การจัดประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย ครั้งที่ 7 ในปี 2560 หรือ 2017 ประเทศไทยยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดประชุมที่กรุงเทพมหานคร เพื่อหารือกันในประเด็นด้านพลังงานในการส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ