ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้า ณ ฮ่องกง สำรวจความต้องการของผู้บริโภคทราบว่า ร้านกระเป๋าแบรนด์ชั้นนำบางรายบริเวณแหล่งช๊อปปิ้งเกาะฮ่องกงย่าน Central ได้ตัดสินใจปิดสาขาดังกล่าวในเดือน ต.ค.58 เนื่องจากไม่อยากแบกรับภาระต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ และร้านค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ในย่าน Causeway Bay ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักในเกาะฮ่องกงยังปิดกิจการไปหลายร้านอีกด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าของไทยกับฮ่องกงในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีถึง 335,201.64 ล้านบาท โดยสินค้าหลักที่ส่งออก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า ผลไม้สด แช่เย็น เม็ดพลาสติก ข้าว เป็นต้น สำหรับเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว มีมูลค่า 41.57 ล้านเหรียญสหรัฐ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป มีมูลค่า 46.33 ล้านเหรียญสหรัฐ
"ในระยะยาวหากส่งออกสินค้าหมวดเครื่องสำอาง และเสื้อผ้าแฟชั่น ที่เป็นสินค้าที่มีศักยภาพ ระดับกลางของไทย เพิ่มขึ้น มีโอกาสที่จะขยายส่วนแบ่งทางการตลาดได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้กับผู้ประกอบการส่งออก เพื่อผลักดันการส่งออกของไทย" นางอภิรดี กล่าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จากวิกฤตการณ์ดังกล่าว ผู้ประกอบการของไทยสามารถปรับเป็นโอกาส โดยเฉพาะสินค้าเครื่องสำอาง หรือเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ แบรนด์ระดับกลางของไทยในการส่งออกไปยังฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆของไทยที่ได้ถูกกล่าวถึงในสื่อออนไลน์ ทำให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพราะค่าเช่าร้านค้าได้ปรับลดราคาลงในช่วงปีที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ร้านค้าปลีกประเภทนาฬิกาและเครื่องประดับ ดังนั้นผู้จำหน่ายสินค้า ฟุ่มเฟือยต่างๆจึงลดสาขาลง และเน้นสาขาที่มีอยู่ในห้างชั้นนำแทน