นอกจากนี้คณะฯ จะได้พบปะนักธุรกิจและผู้นำเข้ารายใหญ่ เพื่อเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มมหาเศรษฐี(Super Rich) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งรัดและผลักดันการส่งออกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งไว้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการส่งออกเน้นการทำงานเชิงรุก การเจาะขยายตลาดใหม่และขยายโอกาสทางการค้าอย่างสร้างสรรค์
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นอีกหนึ่งคลัสเตอร์ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศสูงถึง 10,080 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีผู้ประกอบการที่เป็น SMEs ถึง 90% และมีการจ้างงานกว่า 900,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือชั้นสูงและเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสามารถแข่งขันในระดับโลก
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแต่การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่อประดับไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนา ซึ่งรัฐบาลมีความเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี และกำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การขาดแคลนแรงงานฝีมือที่เป็นมืออาชีพ การนำเข้าวัตุดิบและแหล่งวัตถุดิบ การขยายตลาด มาตรการสนับสนุนและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ การสร้างมูลค่าเพิ่ม การค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
โดยงาน Jewelry Arabia เป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้ารายใหญ่เข้าเยี่ยมชมงานจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของคูหาประเทศไทย ประกอบด้วยการจัดแสดงสินค้าของแต่ละแบรนด์ การพบปะหารือกับหอการค้าและสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับบาห์เรนถึงแนวทางความร่วมมือทางการค้าการลงทุนระหว่างไทย-บาห์เรน และการจัดงาน Thai Night ซึ่งภายในงานจะมีการเผยแพร่เรื่องราวแสดงความเป็นมา (Story Telling) ของการใช้เครื่องประดับตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นและภูมิปัญญาของไทยที่ส่งต่อมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนมีจัดกิจกรรมการเดินแบบเพื่อแสดงศักยภาพอัญมณีและเครื่องประดับไทย และการประชาสัมพันธ์งาน Bangkok Gems and Jewelry คาดว่าจะมีผู้นำเข้ารายใหญ่จากกลุ่ม Super Rich เข้าร่วมงาน Thai Night กว่า 100 ราย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศคาดการณ์มูลค่าสั่งซื้อจากการเข้าร่วมงาน Jewelry Arabia ครั้งนี้รวมกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันให้มูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยไปยังตลาดตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 3% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ขณะที่บาห์เรน ถือเป็นประตูการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในตะวันออกกลาง และเป็นหนึ่งในตลาดศักยภาพสำหรับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เนื่องด้วยหลายปีที่ผ่านมามีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบาห์เรนเป็นประเทศซึ่งมีบรรยากาศที่น่าลงทุนและเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ มีระบบเศรษฐกิจการค้าแบบเสรี ผู้บริโภคในประเทศมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้โดยสะดวก จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะใช้เป็นประตูรุกตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในดินแดนอาหรับแห่งนี้
สำหรับการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทยไปยังภูมิภาคของตะวันออกลาง มีมูลค่าการส่งออก ปี 2557 มีมูลค่า 599.08 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปบาห์เรนมีมูลค่า 36.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวอยู่ที่44%