ครม.เห็นชอบกรอบความร่วมมือรถไฟไทย-จีน วางศิลาฤกษ์ 19 ธ.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 17, 2015 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริฐ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเกี่ยวกับการจัดทำกรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 เพื่อให้โครงการเป็นรูปธรรม ชัดเจนมากขึ้น

กรอบความร่วมมือกำหนด โครงการเป็นขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร สายที่ 1 กรุงเทพ-แก่งคอย และเส้นทางที่ 2 มาบตาพุด-แก่งคอย-โคราช ซึ่งแบ่งเป็น 4 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 กรุงเทพ-แก่งคอย ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา และช่วงที่ 4. นครราชสีมา –หนองคาย

สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการใช้หลักการ Engineering Procurement and Construction หรือ EPC ซึ่งมีการแบ่งแยกความรับผิดชอบงานกันอย่างชัดเจนทั้งเรื่องขอบเขตงาน แหล่งเงินทุน

"ในเรื่องของแหล่งเงินทุน งบประมาณจะมาจากหลายแหล่ง ในส่วนของไทยเป็นการระดมทุนในประเทศ จากงบประมารภาครัฐและเงินกู้ในประเทศ ขณะที่ของจีนจะใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของจีน หรือเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรนอื่นๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ยอมรับได้ ซึ่งเงินกู้ที่จะมาจากต่างประเทศจะต้องไม่มีดอกเบี้ยที่สูงกว่าแหล่งเงินกู้จากในประเทศ เพื่อให้เราได้ประโยชน์สูงสุด"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

ในด้านการเดินรถและซ่อมบำรุง ช่วง 3 ปีแรก ทางจีนรับผิดชอบเป็นหลัก แต่พอในช่วง 3-7 ปี ไทยและจีนจะรับผิดชอบในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และหลัง 7 ปีไป ทางไทยเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แต่จีนจะเป็นที่ปรึกษาให้

สาระของกรอบความร่วมมือมีผลเมื่อมีการลงนามทั้ง 2 ฝ่าย มีเวลา 5 ปี ต่ออายุโดยอัตโนมัติหากไม่มีบอกยกเลิก แต่ถ้ายกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 6 เดือน

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายอาคม เติมวิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า กรอบความร่วมมือดังกล่าวมีความชัดเจน ทำให้เห็นความก้าวหน้าในโครงการแม้ว่าจะยังมีการเจรจาต่อรองเรื่องของดอกเบี้ยอยู่

นอกจกานี้ ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้จะจัดกิจกรรมในเชิงสัญญลักษณ์โดยการวางศิลาฤกษ์ที่ศูนยควบคุมและบริหารการเดินรถ ที่เชียงรากน้อย เพื่อให้เห็นว่า โครงการมีความก้าวหน้าและมีความร่วมมือเกิดขึ้นแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ