"การอนุมัติครั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการ คือ 1.ผู้ดำเนินการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะของยานยนต์ 2.ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อที่จะส่งรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบให้กับผู้ดำเนินการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะของยานยนต์ และ 3.ยานยนต์ที่จะนำมาทดสอบต้องไม่เคยมีจำหน่ายในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ หรือผลิตในประเทศ
สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการนี้ ได้แก่ ยกเว้นภาษีอากรขาเข้า, ยกเว้นภาษีสรรพสามิต, ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากนั้นเงินทุนที่ใช้ทั้งหมดสามารถนำมาหักออกจากกำไรก่อนที่จะไปคำนวณภาษี โดยกรมสรรพสามิตจะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ, การควบคุมดูแลการขนส่งยานยนต์ต้นแบบตั้งแต่เริ่มผลิต ทดสอบ และทำลาย ไม่ให้นำออกไปจำหน่าย
"โครงการนี้คงทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์เล็กน้อย แต่สิ่งที่จะได้รับตอบแทนกลับมาค่อนข้างสูง คือ การลงทุน การจ้างงาน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ครม.มีข้อสังเกตุให้กระทรวงการคลังจัดทำเอกสารข้อกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ตามมาภายใน 2 สัปดาห์ อย่าปล่อยเวลาให้นาน และครั้งต่อไปหากมีเรื่องด่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับภาคเอกชนให้ผนวกข้อกฎหมายเข้ามาในคราวเดียวกัน เพราะเมื่อ ครม.อนุมัติหลักการแล้วต้องออกกฎหมายมาบังคับใช้ทันที ไม่เช่นนั้นจะทำให้การดำเนินโครงการเกิดความชะงักงัน