(เพิ่มเติม) ครม.เห็นชอบคมนาคมลงนาม MOU ว่าด้วยการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยสากล-ตั้งคณะทำงานเจรจา FAA

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 17, 2015 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยสากล โดยวิธีการเฝ้าตรวจตราอย่างต่อเนื่อง [Universal Security Audit Programme – Continuous Monitoring Approach:(USAP-CMA)] ระหว่างองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศและราชอาณาจักรไทย และจะขอความเห็นชอบของ ครม. ในร่างปฏิญญาบราซิเลีย(Brasillia Declaration) หัวข้อการตรวจมี 8 เรื่อง คือ 1. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย 2. แผนการรักษาความปลอดภัย กฎระเบียบ กติกาที่เกี่ยวข้อง 3. หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการักษาความปลอดภัยและรายละเอียดว่ารับผิดชอบอย่างไร 4. คุณสมบัติของการฝึกอบรมบุคลากรในเรื่องการรักษาความปลอดภัย 5. เอกสารแนะแนวทางเทคนิค เครื่องมือ ข้อมูลสำคัญในการรักษาความปลอดภัย 6. หน้าที่ในการรับรองและให้ความเห็นชอบในเรื่องการรักษาความปลอดภัย 7. หน้าที่ในการควบคุมคุณภาพ และ 8. การแก้ไขในข้อกังวลว่าสามารถแก้ไขได้ตรงจุดที่ต้องการหรือไม่

ทั้งนี้ การเข้ามาตรวจจะมีตารางเวลาว่า หลังลงนามบันทึกความเข้าใจกันแล้ว ICAO จะแจ้งให้ทราบก่อน 120 วันก่อนจะมาตรวจและประเทศไทยหลังจากลงนามแล้วจะต้องส่งแบบสอบถามให้ ICAO ภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง แต่รวมอยู่ใน 120 วันดังกล่าว

หลังจาก ICAO ตรวจสอบจะส่งผลการตรวจสอบให้ไทยเป็นรายงานลับภายใน 60 วัน เมื่อไทยได้รับผลการตรวจแล้วมีข้อใดที่ต้องแก้ไขก็ให้ดำเนินการแก้ไขและส่งแผนปฏิบัติการแก้ไขข้อบกพร่องกลับไปที่ ICAO ภายใน 60 วัน ซึ่งการตรวจของ ICAO ในครั้งนี้จะไม่เหมือนที่ผ่านมา ICAO สามารถเข้าไปตรวจได้ถึงที่ทำการเลย สามารถตรวจสอบการอำนวยความสะดวก สามารถสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายว่ามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวต่างๆ ถือเป็นการตรวจสอบที่ค่อนข้างละเอียดและคณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญว่าเรื่อง Security ยากกว่าเรื่อง Safety

"เดิมเราติดเรื่อง Safety อยู่แล้ว เรื่อง Security เราก็ต้องบูรณาการอย่างชัดเจน ต้องผ่านไปให้ได้มิเช่นนั้นจะมีผลไปถึงเรื่อง Safety ที่เรายังติดค้างอยู่ คณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยโดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นหลักในการประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กระทรวงกลาโหม กระ ทรวงการคลัง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เตรียมการในส่วนนี้ให้พร้อมที่จะลงนามบันทึกความเข้าใจแล้วนำกลับมารายงานคณะรัฐมนตรีก่อน" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เสนอให้แต่งตั้งคณะทำงานพิเศษหารือกับผู้แทนสหภาพยุโรป รวมทั้ง FAA โดยมีนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข กรรมการและเลขานุการศูนย์ฯ และนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นรองหัวหน้าคณะ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนไม่เกิน 5 นาย ร่วมเป็นคณะ เดินทางไปหารือเพื่อให้ข้อมูลความคืบหน้าของฝ่ายไทยในรายละเอียดแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยใช้งบประมาณของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน(ศบปพ.)

พร้อมทั้งเห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับ Cooperation Framework Agreement on Aviation Safety โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม และให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ร่วมกันพิจารณากำหนดมาตรการเร่งรัดผลักดันให้ผู้ที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศทุกรายของสายการบินทั้ง 41 สายการบินเข้ามาดำเนินกระบวนการเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศฉบับใหม่ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยให้มีมาตรการลงโทษทางปกครองเกี่ยวกับใบอนุญาต เช่น พักใช้หรือระวังใบอนุญาต ฯลฯ สำหรับสายการบินที่ไม่ให้ความร่วมมือ หรือมีความเสี่ยงสูงด้านความไม่ปลอดภัย ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่เกิดความเสียหายต่อการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศฉบับใหม่เพิ่มเติม จนกว่าจะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern-SSC) ได้โดยเร็วที่สุดด้วย

ทั้งนี้มอบหมายให้ รมว.คมนาคม นำเสนอแผนปฏิบัติการที่มีรายละเอียด ขั้นตอน และระยะเวลาในการดำเนินงาน กิจกรรม ทุกเรื่อง โดยเฉพาะแผนงานด้านการจัดการบุคลากรของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ต่อที่ประชุม ครม.รับทราบภายในเดือนธันวาคม 2558 และให้คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินการในภาพรวมแล้วรายงานให้ทราบทุกระยะ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ