สำหรับการตัดสินนโยบายการเงินครั้งล่าสุดที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลาย รวมทั้ง อัตราแลกเปลี่ยนยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ข้อจากัดเชิงโครงสร้าง และภาวะตลาดการเงินโลกที่มีความผันผวน
ขณะที่กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าขณะนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจะมีผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างจากัด และอาจไปเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพตลาดการเงินในระยะสั้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการรักษาขีดความสามารถในการดาเนินนโยบาย (policy space) ไว้ใช้ในยามจาเป็น และยังคงต้องติดตามความเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า (search for yield) ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ามาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี กรรมการบางส่วนกังวลว่าในบางช่วงเวลาอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนเร็ว หรือปรับไปในทิศทางที่ไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ติดตามและประเมินพัฒนาการของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด