โดยสาระสำคัญที่จะนำไปหารือคือ การเปิดนำเข้าไก่สดจากไทย จากปัจจุบันอิหร่านนำเข้าจากบราซิล รวมถึงการรื้อฟื้นการนำเข้าข้าวไทยด้วย ซึ่งไทยต้องการแสดงความพร้อมการเป็นฐานการผลิตอาหารเพื่อความมั่นคง ให้อิหร่าน รวมถึงเพื่อส่งต่อไปขายในภูมิภาคตะวันออกกลาง และซีไอเอส(อดีตสหภาพโซเวียต) ด้วย ขณะที่ไทยสนใจให้อิหร่านเป็นฐานการผลิตพลังงานเพื่อความมั่นคง โดยจะรื้อฟื้นโครงการที่อิหร่านเคยเสนอให้ไทยใช้ระบบบาร์เตอร์เทรดข้าวกับน้ำมัน และขยายการนำเข้าไปยังสินค้ายางพาราด้วย
นอกจากนี้ ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทยจะหารือกับผู้แทนธนาคารชาติแห่งอิหร่าน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาลู่ทางทางการเงินที่จะอำนวยความสะดวกทางการค้าในอนาคต เพราะระบบการเงินในอิหร่านยังไม่เป็นสากลเท่าที่ควร หากให้เอกชนด้านการเงินไปประเมินความเป็นไปได้ จะสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจให้เอกชนอื่นๆ ด้วย
"การเดินทางเยือนอิหร่านในครั้งนี้เพื่อปูทางก่อนที่ รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และคณะจะเดินทางเยือนวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ.59 ซึ่งจะมีการสร้างความร่วมมือของรัฐบาลไทยในโครงการเมกกะโปรเจกต์ของอิหร่าน เบื้องต้น อิหร่านสนใจให้การเคหะแห่งประเทศไทยเข้าไปร่วมลงทุน เพื่อสร้างส่วนที่อยู่อาศัยให้อิหร่านด้วย สำหรับโครงการเมกะโปรเจกต์ของอิหร่าน เป็นแผนโครงการก่อสร้าง 10 ปี ซึ่งโครงการที่สำคัญมีมากกว่า 100 โครงการ เช่น การก่อสร้างสนามบิน ถนน รถไฟ ท่าเรือ และการพัฒนาเมือง ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนที่อิหร่านจะนำเสนอเพื่อการลงทุนแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ" นายสุวิทย์ กล่าว