"ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย เงินบาทก็จะอ่อนค่าลง ประกอบกับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกของไทย สิ่งที่ตามมาคือเงินเฟ้อกลับมาเป็นบวกที่ 0.9 - 1% ทิศทางดอกเบี้ยก็จะเป็นขาขึ้น แต่น่าจะเป็นช่วงกลางปีหน้า...ทิศทางดอกเบี้ยในปีหน้าจะปรับขึ้นจาก 1.5% มาอยู่ 2%ในช่วงปลายปี"นายบุญทักษ์ กล่าว
สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญในปีหน้ามาจากการลงทุนของภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคธุรกิจให้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ตามมา ที่สำคัญจะช่วยทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนตาม นอกจากนี้ จากการที่รัฐบาลให้สิทธิพิเศษมากขึ้นยิ่งเป็นแรงจูงใจให้ต่างชาติเห็นถึงประโยชน์ของการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากกว่าที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV เพราะสามารถใช้ไทยเป็นฐานในการกระจายสินค้าไปยังประเทศ CLMV ได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นกังวลและต้องจับตาคือ เศรษฐกิจของจีน เพราะหากมีปัญหารุนแรงก็จะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งประเทศไทยมีประชากรอยู่ในภาคเกษตรถึง 40% และยังคงมีปัญหาเรื่องกำลังซื้อ รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศใช้เพื่อมุ่งหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศนั้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศให้มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 2.9% ในปีนี้ และปีหน้าคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.5% ซึ่งจะเอื้อต่อธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ให้มีอิสระในการดำเนินนโยบายการเงิน เพราะแนวโน้มเงินเฟ้อในปีหน้าจะขยับขึ้นไปเป็นบวกได้ 1% จากที่คาดว่าจะติดลบในปีนี้