ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโต 19% และทั้งปีคาดว่าจะเติบโตได้ 15% โดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล คิดเป็นเม็ดเงิน 3.37 แสนล้านบาท ส่วนปีหน้ายังมองว่าเป็นปีที่น่าลงทุน เนื่องจากรัฐบาลได้เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในด้านรถไฟทางคู่ การสร้างทางมอเตอร์เวย์ และการลงทุนภาครัฐซึ่งจะส่งผลดีให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างเนื่อง โดยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีแนวโน้มเติบโต 5-10% ส่วนต่างจังหวัดก็มีแนวโน้มเติบโตที่ดี
สำหรับการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในด้านนวัตกรรมนั้น นายทองมา เปิดเผยว่า ตลอดเวลาดำเนินธุรกิจมา 22 ปีบริษัทได้มีการพัฒนาในเรื่องการลดระยะเวลาในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ใช้เวลาสั้นลงจากปกติสร้างบ้านใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี มาเหลือระยะเวลาการสร้างบ้านได้เสร็จภายใน 3 เดือน รวมถึงมีการพัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีเพื่อลดการจ้างแรงงานในการก่อสร้างได้มากขึ้น