พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่า 2.9% ตามที่สำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์คาดการณ์ไว้ หลังจะเห็นผลของเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
ออกมาในช่วงไตรมาส 4/58 ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะเห็นการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมในกลางปี 2559 พร้อม
กางแผนการลงทุนสำคัญของกระทรวงคมนาคม ที่จะเริ่มทยอยประกวดราคาการก่อสร้างในปีหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการเติบ
โตเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไปด้วย
"ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในตอนนี้กำลังฟื้นตัว ความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด ความเชื่อมั่นเมื่อเพิ่มมากขึ้น ดัชนีตัวเลขต่างๆ ก็จะดี
ขึ้น จากการแถลงตัวเลขของสภาพัฒน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดการณ์ไว้ว่า GDP ปีนี้ไว้ที่ 2.9% ซึ่งน่าจะโตได้มากกว่านี้ เนื่องจาก
ยังมีเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีก โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลของเม็ดเงินในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ"เมื่อคืนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การลงทุนของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า มอร์เตอร์
เวย์ ถนน ฯลฯ ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ทุกโครงการ โดยจะเปิดให้เป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า
PPP และจะเห็นการลงทุนทั้งหมดเป็นรูปธรรมภายในกลางปีหน้า
ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้สรุปสถานะโครงการสำคัญต่างๆ ของรัฐบาลดังนี้ 1) ทางถนน สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะ
ทาง 32 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการประกวดราคา คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาภายในเดือนมกราคมปีหน้า และจะก่อสร้างแล้ว
เสร็จภายในปี 2562, สายบางประอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงานผลกระทบด้านสิ่ง
แวดล้อม(EIA) เพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยจะสามารถเริ่มประกวดราคาได้ในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยจะเริ่มดำเนินการ
ก่อสร้าง เดือนเมษายนปีหน้า และเปิดให้บริการได้ในปี 2562
สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการปรับปรุงรายงาน EIA จะเริ่มประกวดราคาได้ใน
เดือนกุมภาพันธ์ 2559 เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมิถุนายนและเปิดให้บริการได้ในปี 2562 สำหรับสายบางปะอิน กับสายบาง
ใหญ่จะดำเนินโครงการผ่าน PPP Fast Track
2) ทางราง โครงการพัฒนาระบบการขนส่งทางรถไฟระหว่างเมืองภายใต้ความร่วมมือกับต่างประเทศ 2 โครงการ
ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทางมาตรฐานกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ - แก่งคอย และ
ระยะที่ 3 แก่งคอย - นครราชสีมา คาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนสถานีสัดส่วนแนวเส้นทางเดิมและเส้นทางใหม่ เพื่อใช้ในการออก
แบบได้แล้วเสร็จ และสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนช่วงที่ 2 แก่งคอย - มาบตาพุด อยู่ระหว่างการเร่งรัด
ดำเนินการ
สำหรับโครงการภายใต้กรอบความร่วมมือในการพัฒนาระบบทางรถไฟของไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น เส้นทาง กาญจนบุรี-
กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ และกาญจนบุรี- กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง จะมีกำหนดให้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ(MOC) ในเร็ว ๆ
นี้ ส่วนเส้นทางกรุงเทพ - เชียงใหม่ ฝ่ายญี่ปุ่นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำการสำรวจและจัดทำรายงานความเหมาะสม คาดว่าจะสามารถ
นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบในโครงการได้ในเดือนมิถุนายน 2559