ในโอกาสนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จะนำผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 70 ราย ไปจับคู่เจรจาการค้ากับผู้ซื้อผู้นำเข้าญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ผู้ซื้อญี่ปุ่นตอบยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรมแล้วถึง 165 ราย และคาดว่าในวันที่จัดกิจกรรมจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีก โดยผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมเจรจาการค้า ประกอบด้วย ผู้ผลิตผู้ส่งออกสินค้าอาหาร เชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง (Wood Pellet) ดิจิทัลคอนเทนท์ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ นวัตกรรม อุตสาหกรรมหนัก และธุรกิจให้คำปรึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม
"กรมฯ คาดว่าการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ จะทำให้ไทยมีคู่ค้าที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ก็จะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในมิติเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว โดยจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทั้งภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคตและภาคบริการในเอเชียต่อไป" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
นอกจากนี้ จะมีการลงนามในบันทึกความตกลงหรือ MOU ระหว่างสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทยกับสมาคมครีเอทีฟคอนเทนท์ฟูกูโอกะในการร่วมผลิต (Co - Production) การ์ตูนคาแร็กเตอร์สัญชาติไทย-ญี่ปุ่น ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้และร่วมกันพัฒนาผลงาน โดยมีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และผู้ว่าราชการจังหวัดฟูกูโอกะร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตและสร้างสรรค์แอนิเมชั่นที่มีคุณภาพ ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากผู้ประกอบการญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศมิตรมหาอำนาจที่ประเทศไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ปัจจุบันกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินโครงการเพื่อขยายตลาดสินค้าและบริการไทยในตลาดญี่ปุ่นตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ โครงการเจาะกลุ่ม Niche ในตลาดญี่ปุ่น ประกอบด้วย โครงการพัฒนาตลาดสินค้าผู้สูงอายุ หรือ 60+ โครงการส่งเสริมการขายสินค้าสัตว์เลี้ยง และโครงการส่งเสริมสินค้านวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกรมฯ ได้ผลักดันคลัสเตอร์เป้าหมายโดยการจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางเจรจาการค้าในกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและมีความสร้างสรรค์ ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์และสินค้าแฟชั่น ตลอดจนธุรกิจบริการที่ไทยมีศักยภาพ ได้แก่ ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ เป็นต้น
ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน มูลค่าการค้าระหว่างไทย - ญี่ปุ่น ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) รวมทั้งสิ้น 39,036 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 15,237 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 23,799 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกไทยไปยังญี่ปุ่นอันดับต้น ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรกล เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และอาหารทะเลกระป๋องแปรรูป