"ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม มีปริมาณการขาย 67,910 คัน ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 19.5% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 7.2% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เป็นเดือนที่ 3 เป็นผลจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้แนะนำสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา หากแต่ตลาดรถยนต์ในภาพรวมยังคงได้รับผลกระทบสืบเนื่องมาจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย"นายวุฒิกร กล่าว
นายวุฒิกร กล่าวว่า สำหรับตลาดรถยนต์สะสม 10 เดือน มีปริมาณการขาย 621,742 คัน ลดลง 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 21.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 7.8% สืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ และความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน
ขณะที่คาดว่าตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มเติบโต จากการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่มุ่งเน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ภาคเอกชนเร่งลงทุน คาดว่าจะส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ทั้งนี้รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ตลอดจนความต่อเนื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขาย ประกอบกับการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในต้นปีหน้าที่ส่งผลต่อการเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ถือเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาดรถยนต์