ทั้งนี้ หลังจากเปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติได้จนถึงเวลา 11.30 น. พบว่ามีผู้ที่มายื่นซองทั้งสิ้น 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมผลิตพลังงานไฟฟ้า เอทานอล และแอลกอฮอล์
สำหรับข้าวเสียที่จะนำมาเปิดประมูลครั้งนี้ มีปริมาณ 37,412 ตัน จากโกดัง 10 แห่ง ใน 7 จังหวัด คือ ชัยนาท, นครปฐม, นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช, นครสวรรค์, พิษณุโลก และสุรินทร์ โดยเงื่อนไขการประมูลข้าวเสียนั้น ผู้ซื้อจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการรับมอบข้าว และในการขนย้ายข้าวต้องมีใบอนุญาตขนย้ายตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) รวมทั้งต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสถานที่ทำการ ที่เก็บ ที่ผลิต เพื่อสุ่มตรวจข้าวได้ตลอดเวลา
นายอดุลยเดช ประทีปสินธุ์ ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายจัดซื้อและบริหารจัดการทั่วไป บริษัท ไทยแอลกอฮอล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าร่วมประมูลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บริษัทจะใช้ต้นข้าวและปลายข้าวไปผลิตแอลกอฮอล์ เพราะเป็นวัตถุดิบที่มีเชื้อแป้งและสามารถนำไปทำแอลกอฮอล์ได้ จากเดิมที่ใช้กากน้ำตาลและน้ำตาล โดยเบื้องต้นจะเลือกประมูลข้าวในสต๊อกที่ใกล้กับโรงงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขนย้าย