สัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (insurance premiums to GDP) ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคเอเชีย การเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนประชากรที่มีอายุเพิ่มขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้น ประโยชน์ทางด้านการลดหย่อนภาษี และการมีระบบช่องทางการจัดจำหน่ายที่ดีขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทประกันชีวิตเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ในขณะเดียวกัน บริษัทประกันวินาศภัยน่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะปานกลางถึงระยะยาว ถึงแม้ว่าน่าจะเติบโตได้ไม่มากนักในปี 2559 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ
กลุ่มประชากรที่มีรายได้อยู่ในระดับปานกลางถึงรายได้สูงที่เพิ่มมากขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นให้มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์และประกันทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การที่ประชากรมีอายุคาดเฉลี่ยที่ยาวนานขึ้นน่าจะช่วยให้เบี้ยประกันด้านสุขภาพขยายตัวมากขึ้น
ฟิทช์ยังคงแนวโน้มมีเสถียรภาพสำหรับอุตสาหกรรมประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในประเทศไทยในปี 2559 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานที่ดี และมีพอร์ทการลงทุนและทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ ฟิทช์คาดว่าการกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (risk-based capital) ระยะที่ 2 (Phase 2) ที่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้น่าจะช่วยให้บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยมีความระมัดระวังมากขึ้นในการบริหารจัดการเงินกองทุนและวางกลยุทธ์การลงทุน