นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 35.81/83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.75 บาท/ดอลลาร์
ช่วงบ่ายมี flow ซื้อดอลลาร์เข้ามาจึงส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงจากในช่วงเช้า ทั้งนี้มองว่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ ซึ่งตลาดจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ รวมทั้งต้องติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน, ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค.
"บาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้ต่อ ต้องรอดูประชุม ECB พรุ่งนี้ว่าจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมออกมาหรือไม่ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-35.95 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.15/18 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 122.96 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0592/0595 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0619 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,339.45 ลดลง 17.56 จุด (-1.29%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 37,211 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 48.50 ลบ.(SET+MAI)
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวลือที่ระบุว่าสหภาพยุโรปอาจคว่ำบาตรไทยจนกว่าจะมีการเลือกตั้งว่า ยังไม่ได้รับทราบหรือรับรายงานใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมมองว่าอย่าเพิ่งเชื่อมากนัก เพราะการค้ากับการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน ขณะที่การพูดคุยกับทูตจากประเทศในยุโรปในช่วงที่ผ่านมาก็มีการหารือกันถึงเรื่องการค้าทั้งนั้น
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประกาศให้สกุลเงินหยวนเข้าอยู่ในตะกร้าเงิน SDRs โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ต.ค.59 นั้นเป็นสิ่งที่ตลาดได้คาดการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าปริมาณการใช้เงินหยวนในธุรกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น และขนาดของเศรษฐกิจจีนในระบบเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัดส่วนใหญ่ขึ้น ประกอบกับทางการจีนได้มีการเปิดเสรีให้เงินหยวนเคลื่อนไหวได้มากขึ้น จึงมองว่ายังไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินในทันทีทันใด โดยระหว่างนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการตลาดเงินโลกจะได้มีเวลาปรับตัว
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง มั่นใจภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 58 จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.8-2.9% และมีโอกาสขยายตัวได้สูงถึง 3% อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา โดยภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ยังมีความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องสูง และยังมีความมั่นคงแข็งแกร่งทางการเงิน โดยมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในระดับต่ำที่ 43% ทำให้ภาครัฐมีโอกาสในการใช้มาตรการต่างๆ เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกมาก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความมั่นคง รัฐบาลสามารถเดินตาม Road Map เกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า งาน Thailand Focus 2015 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Opportunity Growth Reform"นับเป็นเวทีสำคัญที่จะแสดงถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนในไทยให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก ซึ่งปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเกือบ 400 รายเข้าร่วมงาน โดยปีนี้มีบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ร่วมนำเสนอข้อมูลถึง 120 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันถึง 8.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 66% ของมูลค่ารวมของตลาด
- นางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ดว่า เฟดควรจะระมัดระวังและค่อยๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐในปัจจุบัน โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา นักลงทุนที่ยังคงมีจุดยืนในการระมัดระวังช่วงวิกฤตและการผลิตที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งล้วนบ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่ต้องการอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปก็จะเป็นเรื่องยากที่จะผ่อนคลายนโยบายเพื่อรับมือกับข้อผิดพลาดจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ใกล้เคียงกับระดับศูนย์
- นายคิคุโอะ อิวาตะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) เผยการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ถือเป็นความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญมากที่สุดต่อการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของ BOJ
- นายจู กวงเหยา รมช.คลังของจีน เชื่อมั่นว่าเงินหยวนจะถูกควบคุมโดยกลไกตลาดในวันข้างหน้า แต่การเปลี่ยนผ่านจากระบบลอยตัวค่าเงินหยวนภายใต้การควบคุมของรัฐบาลได้อย่างสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องใช้เวลา ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) มีมติอนุมัติให้นำสกุลเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ของ IMF โดยมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.59 ส่งผลให้หยวนได้รับการปรับยกสถานะในเวทีการเงินโลก เทียบเท่ากับดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยนที่ได้รับอนุมัติให้รวมไว้ในตะกร้า SDR ก่อนหน้านี้