นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ขออนุมัติดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี วงเงินรวม 1.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนงานก่อสร้าง 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาเงินกู้ที่เหมาะสมในกรอบวงเงินค่าก่อสร้างรวมค่าจ้างที่ปรึกษาเป็นเงิน 8.54 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้มีค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินและค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 9,600 ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณที่มาจากรายได้ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นค่าใช้จ่ายเพียงพอต่อการบริหารงานและการลงทุน ส่วนที่เหลือเป็นงานระบบเดินรถและตัวรถไฟฟ้า ซึ่งจะเข้ากระบวนการให้เอกชนเข้าร่วมทุน(PPP) โดยให้ รฟม.และกระทรวงคมนาคมนำเสนอเรื่องการเดินรถเข้าที่ประชุม PPP โดยเร็ว
"ที่ประชุม ครม.กำชับเร่งรัดการประมูลให้ได้ภายใน 6 เดือน ตามกำหนดการก็จะเป็นเดือนพฤษภาคม 59 ซึ่งคณะรัฐมนตรีให้ข้อสังเกตุและ รฟม.รับไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นงานก่อสร้าง....ส่วนงานเดินรถเร่งรัดให้เข้าที่ประชุม PPP เพื่อให้เดินรถให้เร็วที่สุด" นายอาคม กล่าว
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มีระยะทาง 21.2 กม. เป็นทางวิ่งยกระดับ 9 กม. ทางวิ่งใต้ดิน 12.2 กม. ทั้งหมดมี 17 สถานีบนดิน 7 สถานี และสถานีใต้ดิน 10 สถานี จุดเริ่มต้นอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ออกถนนพระราม 9 วิ่งเข้าสู่ถนนรามคำแหง เข้าแยกถนนกาญจนาภิเษกไปสิ้นสุดที่ใกล้จุดตัดถนนรามคำแหงกับถนนสุวินทวงศ์ ทั้งนี้คาดการณ์จะมีจำนวนผู้โดยสาร 4.8 แสนคน/วัน
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ครม.มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้โครงการเน้นการออกแบบงานก่อสร้างแบบประหยัดและใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตภายในประเทศ รวมทั้งตัวระบบรถ ระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณต่างๆ ให้สนับสนุน Super Clusters ให้มีชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้สนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศของเอสเอ็มอี เช่น ทำเบาะรถ เป็นต้น ซึ่งมีขีดความสามารถในประเทศและนวัตกรรมต่างๆ ส่วนตัวระบบรถอาจจะนำโครงรถไฟฟ้าเข้ามา และนำมาประกอบภายในประเทศให้เป็นตัวรถที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งการตกแต่งภายในตัวรถที่ใช้วัสดุในประเทศ ซึ่ง รฟม.จะนำเสนอรายละเอียดอีกชั้นหนึ่งให้กับ ครม.ต่อไป
นอกจากนี้เรื่องค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน ครม.ได้กำชับว่าจะต้องเป็นบริษัทที่เป็นอิสระ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทออกแบบ รวมทั้งการจ้างที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างจะต้องเป็นบริษัทต้องไม่เป็นบริษัทที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัททั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง และบริษัทผู้ออกแบบ
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้การเดินหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสายในสัญญาฉบับใหม่ ต้องเน้นการใช้วัสดุภายในประเทศอย่างน้อย 30% ที่เหลือเป็นการสั่งซื้ออีก 70% เน้นการสร้างธุรกิจในประเทศรองรับการอุตสาหกรรมเหล่านี้ เช่น อุปกรณ์ตกแต่งในรถไฟฟ้า หรือหลอดไฟ เป็นต้น และต้องมีการเตรียมพร้อมไปสู่การพัฒนาผลิตรางรถไฟด้วยตัวเอง แม้ปัจจุบันยังติดขัดในเรื่องเหล็กเส้นที่ยังไม่ได้คุณภาพจึงยังมีความจำเป็นต้องนำเข้าอยู่ รวมทั้งอยากให้มีการต่อยอดใช้สำหรับรถประจำทางให้หลักการเดียวกันด้วย