นอกเหนือจากหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่หมอเสริฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 19.11% รวมมูลค่า 54,777.21 ล้านบาท และหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 42.46 ล้านบาท แล้ว
ปีนี้หมอเสริฐยังรวยขึ้นจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยถือหุ้น BA 18.24% มูลค่า 7,545.52 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมมูลค่า 35,280.09 ล้านบาท ลดลง 6,299.41 ล้านบาท หรือ 15.15% เนื่องจากหุ้น PS ที่ทองมาถือในสัดส่วน 54.42% มูลค่า 34,902.50 ล้านบาท นั้น ราคาปรับลดลงเหลือ 28.75 บาท ณ 30 กันยายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นในปีนี้ จากที่อยู่ในระดับ 34.25 เมื่อปีที่แล้ว โดยราคาปรับลดลง 5.5 บาท หรือ 16.06%
นอกจากนี้ ทองมา ยังถือหุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) 0.71% มูลค่า 224.58 ล้านบาท และ บมจ.แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) 0.61% มูลค่า 153.01 ล้านบาท อีกด้วย
เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ในปีนี้ เป็นของนายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของกิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,495.74 ล้านบาท ลดลงไป 4,069.75 ล้านบาท หรือ 11.13% ประกอบด้วยหุ้น EA 40.49% มูลค่า 32,468.44 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 27.30 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) หุ้นที่คีรีถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 32,209.11 ล้านบาท ลดลง 6,990.91 ล้านบาท หรือ 17.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 27.52% มูลค่า 31,991.36 ล้านบาท บมจ.แกรนด์ คาเนล แลนด์ (GLAND) 0.51% มูลค่า 87.60 ล้านบาท และหุ้น บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) 0.54% มูลค่า 130.16 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 23,026.65 ล้านบาท ลดลง 1,761.96 ล้านบาท หรือ 7.11% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 24.43% มูลค่า 23,016.30 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 10.35 ล้านบาท
ปีนี้เจ้าของอาณาจักรธุรกิจแบรนด์สุกี้ MK นางยุพิน ธีระโกเมน กระโดดขึ้นมานั่งในอันดับ 6 โดยถือหุ้น บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) มูลค่า 20,970.10 ล้านบาท โดยยุพินถือหุ้น M ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 21.97% เป็น 40.03% ในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 8,831.71 ล้านบาท หรือ 72.76%
ด้านนายวิชัย ทองแตง เจ้าพ่อเคเบิลยักษ์ใหญ่แบรนด์ CTH ปีนี้ครองอันดับ 7 ถือหุ้นรวมมูลค่า 20,431.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.62 ล้านบาท หรือ 0.67% ซึ่งนอกจากหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 6.71% มูลค่า 19,238.46 ล้านบาท, บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) 7.23% มูลค่า 551.76 ล้านบาท และ บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท แล้ว ปีนี้นายวิชัยยังถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 3 บริษัท คือ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) 0.51% มูลค่า 51.42 ล้านบาท, บมจ.สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง (SGF) 17.67% มูลค่า 192.12 ล้านบาท และ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) 6.72% มูลค่า 125.64 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ในปีนี้ ได้แก่ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 19,871.66 ล้านบาท ลดลง 4,148.70 ล้านบาท หรือ 17.27% นอกจากนิติจะเป็นทายาทของอาณาจักรโอสถสภาแล้ว ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตการถือหุ้นมากถึง 14 บริษัท
ปีนี้นายพิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่ในอันดับ 9 ถือหุ้นมูลค่ารวม 18,491.78 ล้านบาท ลดลง 1,931.06 ล้านบาท หรือ 11.66% ประกอบด้วย บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ในสัดส่วน 71.99% มูลค่า 5,277.61 ล้านบาท, บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) 25.84% มูลค่า 10,326.66 ล้านบาท และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) 5% มูลค่า 2,887.50 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ เป็นอีกหนึ่งทายาทของหมอเสริฐที่ได้ รับอานิสงส์จากการนำบางกอกแอร์เวย์เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 13,846.15 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 6,451.59 ล้านบาทหรือ 87.25% ประกอบด้วย บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ในสัดส่วน 2.71% มูลค่า 7,764.56 ล้านบาท และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 14.70% มูลค่า 6,081.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีทายาทอีก 3 คน ได้ก้าวเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ในปีนี้ ได้แก่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ เป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 32 ถือหุ้น BA 15.88% มูลค่า 6,567.74 ล้านบาท, นางอาริญา ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 101 ถือหุ้น BA 7.78% มูลค่า 3,054.29 ล้านบาท, น.ส.สมฤทัย ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 222 ถือหุ้น BA 3.69% มูลค่า 1,527.59 ล้านบาท และภรรยาหมอเสริฐ นางวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ เศรษฐีหุ้นอันดับ 430 ถือหุ้น BA 1.73% มูลค่า 714.13 ล้านบาท
สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2558 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถ ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก โดยสร้างสถิติความมั่งคั่งสูงสุดถึง 88,086.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 22,771.37 ล้านบาท หรือ 34.86%
ความมั่งคั่งของตระกูลปราสาททองโอสถที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนี้ เกิดจากการนำ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือบางกอกแอร์เวย์สจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ 6 เครือญาติในตระกูล นำโดย น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และภรรยานางวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ รวมทั้งทายาทอย่าง นายพุฒิพงศ์ น.ส.สมฤทัย นางอาริญา และ พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ รวยขึ้นในพริบตา
นอกจากหุ้น BA แล้ว ตระกูลปราสาททองโอสถยังถือหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) และ บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) อีกด้วย
ส่วน ตระกูลจิราธิวัฒน์ แชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 2 ปีซ้อน ปีนี้หล่นไปอยู่อันดับ 2 โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 44 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 58,548.92 ล้านบาท ลดลง 10,842.96 ล้านบาท หรือ 15.63% ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ โดย 5 เครือญาติในตระกูล ได้แก่ นายคีรี นายอนันต์ นายกวิน นายชัยสิทธิ์ นายสาคร กาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 45,052.90 ล้านบาท ลดลง 4,340.87 ล้านบาท หรือ 8.79%
อันดับ 4 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธ์ โดยนายทองมาและนางทิพย์สุดา พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองคน คือ น.ส.มาลินี และ ด.ญ.ชัญญา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้นบมจ.พฤกษา (PS) รวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 42,611.34 ล้านบาท ลดลง 7,701.91 ล้านบาท หรือ 15.31%
และตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตงที่ครอบครัวทองแตง ได้แก่ นายวิชัย นางเพชรัตน์ น.ส.วิอร นายอัฐ นายอติคุณ และนายอิทธิ ทองแตง ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 41,653.59 ล้านบาท ลดลง 2,428.77 ล้านบาท หรือ 5.51%