เงินบาทเปิด 36.00 คาดแกว่งแคบ ปริมาณซื้อขายเบาบาง รอผล FOMC สัปดาห์หน้า

"เงินบาทอ่อนค่าจากเย็นวันพุธตามปัจจัยของตลาดโลกที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางเงินบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ ธุรกรรมคงมีไม่มาก รอผลประชุม FOMC สัปดาห์หน้า" นักบริหารเงิน กล่าว

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันพุธที่ระดับ 122.70 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0927 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันพุธที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.9350 บาท/ดอลลาร์
• คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป-"เอียซ่า" มติเอกฉันท์ไม่แบนสายการบินจากไทยระบุรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาต่อข้อกังวลจากไอซีเอโอ พร้อมเกาะติดมาตรฐานการบินของไทยต่อเนื่อง ทูตยุโรปลั่นโล่งใจ นายกฯ ขอบคุณเอียซ่า ยันเดินหน้าเข้มงวดมาตรฐานการบิน "อาคม" เร่งปลดล็อกธงแดงไอซีเอโอ ลุยสอบมาตรฐาน 41 สายการบินคุมเข้มออกใบอนุญาตใหม่ คาดมีสายการบินเข้าข่ายถูกยึดใบอนุญาต
• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานยอดการให้บริการบัตรเครดิต ณ สิ้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ทั้งระบบมีการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมทั้งสิ้น 1.37 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,080 ล้านบาท หรือ 6.28% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.29 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ประมาณ 9.6 หมื่นล้านบาท
• นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ว่าขณะนี้ได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมเสร็จสิ้นแล้ว คาดจะเสนอให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาได้ในเร็วๆ นี้ และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ หาก ครม.อนุมัติ ก็เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป โดยมีสาระคือยังคงให้นำรัฐวิสาหกิจเข้ามาอยู่ภายใต้กฎหมายนี้ แต่ให้มีข้อยกเว้นว่า การกระทำของรัฐวิสาหกิจที่ทำเพื่อความจำเป็นต่อการทำงานของรัฐบาลและประเทศ และเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนี้
• สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังแยกรายการเบิกจ่ายของงบกลางปีงบประมาณ 59 ออกจากงบประมาณภาพรวม เนื่องจากการเบิกจ่ายงบกลางมีความล่าช้ามาก โดยมีงบประมาณอยู่ที่ 422,000 ล้านบาท เบิกจ่ายได้เพียง 65,700 ล้านบาท หรือ 15.6% เท่านั้น ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณโดยรวมล่าช้า ทำให้นักลงทุนไม่เกิดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยได้เต็มที่ เนื่องจากเงินยังเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้นัดหารือกับภาคเอกชนหลายราย เพื่อต่อยอดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนหลังจากเมื่อต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้นำคณะนักธุรกิจชั้นนำของไทยรวม 25 คนเข้าพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และได้มีข้อตกลงว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศขึ้นซึ่งการหารือวันนี้ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมา 10 คณะ เพื่อร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาประเทศ
• "สมคิด" เผยสัปดาห์นี้จะมีการประชุมร่วมกับ 3 ประเทศคือ จีน เมียนมา และกัมพูชา รุดประชุมภาคเอกชนทำ 2 งานใหญ่ งานแรกต่อยอดจากที่พบนายกฯ ตั้ง 10 คณะทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดึงเอกชนช่วยงานรัฐทางอ้อมแก้ปัญหาไม่อยากมาเป็นรัฐมนตรี พร้อมกับให้เตรียมตัวเจรจากับคณะรัฐบาลจีนที่จะนำรัฐมนตรีและเอกชนยักษ์ใหญ่ 20 รายมาไทยวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้
• นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า สภาได้สำรวจความเห็นของนายจ้างและผู้ประกอบการเกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานปี 59 เบื้องต้นพบว่า นายจ้างกว่า 70% มีนโยบายไม่รับพนักงานเพิ่ม และไม่ปรับเพิ่มขึ้นอัตราค่าจ้าง โดยจะคงอัตราปัจจุบันไปจนถึงกลางปี 59 จากนั้นจะหารือภาพรวมอีกครั้ง ซึ่งภาพรวมทั้งหมดจะสรุปผลอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 16 ธ.ค. นี้
• นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในการจัดทำงบประมาณประจำปี 60 อาจพิจารณาโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน หรือเอสเอ็มแอล เข้ามาอยู่ในแผนการจัดทำงบประมาณด้วย เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการ
• นายเทียนไชย จงพีร์เพียร กรรมการในคณะทำงานจัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานยังติดตามตัวเลขภาวะเศรษฐกิจปีนี้ และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 59 รวมถึงทิศทางของสภาพอากาศในระยะยาว เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการทบทวนค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อที่จะบริหารจัดการปริมาณไฟฟ้า โดยเฉพาะกำลังผลิตสำรอง ที่จะต้องดูแลให้เกิดความมั่นคงของประเทศ
• นายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกรณีที่ภาคเอกชนเรียกร้องรัฐขยายโครงการการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนระยะที่ 2 ในวงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องเอสเอ็มอีว่า โครงการสินเชื่อซอฟต์โลนรัฐบาลดำเนินการมาถูกทาง และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะหากเอสเอ็มอีขนาดกลางนำเงินที่ต้นทุนต่ำมาลงทุน จะสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งผลดีให้เอสเอ็มอีรายเล็ก ประกอบกับรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในปีหน้า ผู้ประกอบการรายใหญ่จะได้รับประโยชน์ และเมื่อได้รับงานจากภาครัฐก็จะไปว่าจ้างให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กรับงานต่อ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีหน้า
• นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระ ด้านพลังงาน เปิดเผยสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า แนวโน้มราคาตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดจนหลุดระดับ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นราคาต่ำสุดเกือบ 7 ปีแล้ว ดังนั้นราคาอาจจะปรับลงอีกไม่มาก โดยต้องพิจารณากำลังการผลิตน้ำมันที่ยังล้นตลาด การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในวันที่ 15-16 ธ.ค.2558 นี้ด้วย ถ้าหากขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อเงินดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่าขึ้นอีก
• นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในปี 2559 นั้นจะเติบโตมากกว่า 10% หลังจากงานก่อสร้างภาครัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดการใช้งบค้างท่อมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2557 จนมาถึงปัจจุบัน ส่งผลให้งานก่อสร้างภาคเอกชนเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2558
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ระดับ 1,072 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนในเดือน พ.ย. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทาน้ำมันที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ม.ค.ลดลง 38 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 39.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0936 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1018 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5159 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5178 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.62 เยน จาก 121.34 เยน