สำหรับโครงการแรก คือ การจัดงาน “เทใจ..คืนสุข..เทศกาลปีใหม่"โดยกรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมกว่า 13,500 สาขาทั่วประเทศ และ “ร้านฉลาดซื้อ ประหยัดใช้" ของกระทรวงพาณิชย์ อีกจำนวน 57 ราย ใน 43 จังหวัด จัดจำหน่ายสินค้าลดราคาครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 17-27 ธ.ค. ลดราคาสินค้าสูงสุด 80% คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสินค้าประมาณ 50,000 ล้านบาท ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เฉลี่ย 30% หรือคิดเป็นเงินประมาณ 15,000 ล้านบาท
โครงการของขวัญชิ้นที่ 2 คือ ตลาดชุมชน เป็นการดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายส่งเสริมการดำเนินการด้านการตลาดภายในประเทศ โดยกรมการค้าภายในร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการตลาดต้องชม เพื่อยกระดับตลาดชุมชนในท้องถิ่นให้มีอัตลักษณ์และสะท้อนวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งจะเชื่อมโยงกับโครงการ 12 เมืองต้องห้ามพลาดของ ททท. มีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนให้ได้ 77 แห่ง ทั่วประเทศภายในปี 59 และจำนวน 231 แห่งภายในปี 61 เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล
นอกจากนี้ยังได้จัดโครงการธงฟ้า โดยกรมการค้าภายในร่วมกับห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “ธงฟ้าจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด" ซึ่งจะมีราคาต่ำกว่าราคาตลาด 20-40% มีกำหนดจัดงาน 5 แห่ง ในระหว่างวันที่ 18-20 ธ.ค.นี้ รวมทั้งจัดกิจกรรมไทยแลนด์ ออนไลน์ เมกา เซลส์ (Thailand Online Mega Sale) โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรม “ช๊อปกระจุย ลดกระจาย สินค้าออนไลน์ทั้งประเทศไทย"
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ของขวัญชิ้นที่ 5 คือการจัดงานตลาดนัดสินค้าชุมชน“ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม" โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด จัดงานภายใต้ชื่องาน “ของที่ระลึกแด่พ่อ ของขวัญปีใหม่" ระหว่างวันที่ 1-25 ธ.ค. ของขวัญชิ้นที่ 6 คือการให้บริการในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี 58 ระหว่างวันที่ 17-27 ธ.ค. ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ เปิดให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพิ่มเติม ณ ส่วนกลาง สนามบินน้ำ ในวันที่ 19 และ 26 ธ.ค.
ส่วนของขวัญชิ้นที่ 7 คือการจัดงานโอท็อป ซิตี้ โดยจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 23-30 ธ.ค. ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยจัดบูธให้คำปรึกษาเกี่ยวกับช่องทางการตลาดออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) และจัดนิทรรศการท็อป ไทยแบรนด์ และสุดท้ายชิ้นที่ 8 คือการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่อง “ทรัพย์สินทางปัญญากับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน" โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญ มีกำหนดจัดกิจกรรมคิกออฟ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มจากจังหวัดนครพนมในวันที่ 15 ธ.ค. และวันที่ 18-19 ม.ค.59 จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่รับจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาและสนับสนุนค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอจดทะเบียน เป็นต้น
"การปูพรมจัดกิจกรรมและบริการต่างๆของกระทรวงฯช่วงปลายปีนี้ จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน กระตุ้นระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภายในประเทศพร้อมกันไปด้วย" นางอภิรดี กล่าว