1.การเสนอเพิ่มประเภทของสินทรัพย์ให้รวมถึงตราสารทุน เป็นการขยายขอบเขตการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ที่กว้างขึ้นกว่าที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการบริหารความเสี่ยงของเงินสำรองระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ไม่ใช่การเสนอจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่ง (Sovereign Wealth Fund) ที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่นที่หลากหลายกว่ามาก ในการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศนั้น ธปท.จะต้องให้ความสำคัญกับสภาพคล่องของการลงทุน เพราะเงินสำรองระหว่างประเทศจะต้องมีความพร้อมที่จะนำมาใช้ได้ตลอดเวลา
2.การวางแผนขยายขอบเขตการลงทุนให้ครอบคลุมถึงตราสารทุนนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เพื่อให้ ธปท. มีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดย ธปท.ได้ศึกษาเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และมีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตนั้นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตลาดการเงินโลกจะมีความผันผวนสูงขึ้น ในบางช่วงเวลาการลงทุนเฉพาะในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ อาจทำให้การบริหารเงินสำรองไม่มีประสิทธิภาพ การมีทางเลือกในการลงทุนเพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการบริหารการลงทุนได้ เช่น ในช่วงที่พันธบัตรของประเทศอุตสาหกรรมหลักๆ มีผลตอบแทนต่ำหรือติดลบ หรือค่าเงินสกุลหลักๆ อ่อนค่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารทุนอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ชดเชยได้
3.การลงทุนในตราสารทุนจะเป็นเพียงส่วนน้อยของเงินสำรองระหว่างประเทศ และจะเป็นการลงทุนเฉพาะในบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นบัญชีที่มีไว้เพื่อรองรับความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ มิได้เกี่ยวข้องกับบัญชีทุนสำรองเงินตราที่มีไว้เพื่อหนุนหลังการออกธนบัตรแต่อย่างใด บัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นบัญชีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามปริมาณเงินทุนเคลื่อนย้าย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารสภาพคล่องเป็นอย่างดี
4.ในการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศนั้น จะมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ โดยมีการรายงานผลการบริหารและความเสี่ยงของการลงทุนต่อคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่มีหน้าที่กำกับดูแล และมีการกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมโดยยึดหลักการตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย
5.ในการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ ธนาคารกลางหลายแห่งได้ลงทุนในตราสารทุนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว อาทิ ธนาคารกลางมาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น