(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.96 หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็นไปตามตลาดคาด ยังรอผล BOJ

"เมื่อคืน FOMC ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ซึ่งก็เป็นไปตามตลาดคาดการณ์ อะไรที่เป็นไปตามตลาดคาดก็จะไม่ Move เยอะ กลับกันกลายเป็นว่าพอเฟดขึ้นดอกเบี้ย Action แรกในตลาดคือ พากันเทขายดอลลาร์ทำให้บาทแข็งค่าลงมา แต่ก็กลับขึ้นมาอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทน่าจะเทรดในกรอบ 35.95-36.15 บาท/ดอลลาร์

"ต้องจับตาดูทุกปัจจัย รวมทั้ง BOJ ซึ่งก็รอผลจากเฟดเช่นกันก่อนจะตัดสินใจอะไรออกมา" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.0908 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(16 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.47910% และ THAI BAHT FIX 6M(16 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.53609%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 121.97 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0843 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0925 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.9870 บาท/ดอลลาร์
• ประมูล 4 จีคลื่น 900 MHz ยังไม่สิ้นสุด โดยการประมูลล่วงเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ขณะที่ราคาแซงคลื่น 1800 MHz รวม 2 ใบ อยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาทแล้ว
• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แย้มไตรมาสแรกปีหน้าออกมาตรการช่วยเหลือคนรายได้น้อยเพิ่มเติม หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง พร้อมประชุมครม.อังคารหน้าเคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ด้าน สศค.ระบุพร้อมนำระบบภาษีโอนกลับช่วยคนรายได้น้อยเสนอรัฐ หากนำระบบสมาร์ทไอดีมาใช้
• พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดตั้งคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ว่า ครม.ได้ เห็นชอบรายชื่อภาคเอกชนที่เข้าร่วมเป็นคณะทำงานย่อยร่วมกับ ครม.และหัวหน้าส่วนราชการด้านเศรษฐกิจ ตามที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เสนอแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับซีอีโอ ของบริษัทขนาดใหญ่ ที่เข้าร่วมเป็นประธานคณะทำงานย่อยทั้ง 12 ชุด เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการของรัฐบาลให้เป็นผลสำเร็จ
• ผู้เชี่ยวชาญพลังงานมองแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลแตะ 20 บาท/ลิตร ยุโรปและอเมริกาอบอุ่นทำยอดใช้ลด ความต้องการน้อย ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายฉุดราคาร่วงซ้ำ ด้าน ปตท.-บางจาก แจ้งลดน้ำมันทุกชนิด 17 ธ.ค. เผยต่ำสุดรอบ 6 ปี 8 เดือน ทิศทางยังปรับลงได้อีกโดยเฉพาะดีเซล
• นายกลินทร์ สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ หอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้มีการคาดการณ์แนวโน้มท่องเที่ยวไทย ปี 2559 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 35 ล้านคน คิดเป็นรายได้กว่า 1.65 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 8.5 แสนล้านบาทส่งผลทำให้ปี 2559 ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 2.5 ล้านล้านบาท
• เอกชนยังไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจปี 59 จะฟื้นตัวหรือดีขึ้นไปกว่าปีนี้ เหตุกังวลสถานการณ์โลกและภายในรวมถึงการเมือง ห่วงแรงงานใหม่ปีหน้า 5.8 แสนคน ส่อแววเตะฝุ่นอื้อ เพราะมีผู้ประกอบการถึง 75% ไม่รับคนเพิ่ม อีก 13% อาจปลดออกด้วยซ้ำ วอนรัฐอย่าเพิ่งเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ
• กรมบัญชีกลาง ลงพื้นที่สำรวจโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น มั่นใจเม็ดเงิน 8 หมื่นล้านบาทกระจาย ไปต่างจังหวัดอย่างทั่วถึง หลังจาก ครม.ขยายระยะเวลาโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท จากเดิมสิ้นสุดเดือน ธ.ค.นี้ เป็นสิ้นสุดเดือน มี.ค.ปีหน้า ขณะที่การเบิกจ่ายงบปี 59 เบิกจ่ายไปแล้ว 23.2%
• คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006

นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และจากรายงานข่าวที่ว่าผู้นำในสภาคองเกรสสหรัฐเห็นพ้องกันที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 35.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2552 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 37.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด 4.8 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กได้ปิดทำการซื้อขายก่อนที่เฟดจะแถลงมติการประชุม สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 15.2 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ระดับ 1,076.80 ดอลลาร์/ออนซ์
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี โดยดอลลาร์ได้ชะลอความแรงลงหลังจากที่พุ่งขึ้นในทันทีหลังมีการเปิดเผยแถลงการณ์เฟด
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 10.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.173 ล้านยูนิต หลังจากดิ่งลง 12% ในเดือนต.ค.

• ธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีการขยายตัวในอัตรา 6.8% ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกที่เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้มีแรงกดดันช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจ
• ธนาคารกลางฮ่องกงประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ