ม.หอการค้าไทย คาดปี 59 GDP โต 3.5-4% เงินบาทในกรอบ 36-37 บาท/ดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 17, 2015 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวได้ 3.5-4.0% เนื่องจากเชื่อว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐน่าจะทำได้มากขึ้นในช่วงไตรมาส 1/59 ทั้งเงินค้างท่อในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน เงินค้างท่อในส่วนของโครงการตำบล และโครงการลงทุนขนาดเล็ก รวมทั้งแนวโน้มที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงม.ค.ปีหน้า

นอกจากนี้ ยังได้เห็นความมุ่งมั่นในการร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้มข้นมากขึ้น และการประมูล 4G มีความคึกคักมาก เพราะราคาประมูล 2 ใบอนุญาตขณะนี้รวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งทำให้เห็นว่าการมองอนาคตของไทยผ่านภาคเอกชนในธุรกิจไอทีและธุรกิจดิจิตอลมีความพร้อมที่จะลงทุนในวงเงินระดับสูง

"การลงทุนในเมกะโปรเจ็กท์มีความพยายามที่จะเซ็น MOU กับจีนและญี่ปุ่น และขับเคลื่อนโครงการให้รวดเร็วภายใต้การอนุมัติกรอบของ Thailand Future Fund รวมทั้งการร่วมลงทุนกับเอกชนในโครงการภายใต้แผน PPP ซึ่งการขับเคลื่อนเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการขนาดใหญ่น่าจะทำได้เร็วภายในครึ่งปีแรกของปี 59" นายธนวรรธน์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% นั้น แสดงให้เห็นว่าเฟดมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตได้ดี และเศรษฐกิจโลกจะเติบโตในทิศทางที่คาดไว้ และไม่ให้น้ำหนักกับปัจจัยลบ เช่น การก่อการร้าย ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากนัก

"เฟดยังใช้คำว่าเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งหากปีหน้าสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยอีกในช่วงครึ่งปีแรก ก็คงจะทยอยขึ้นไตรมาสละ 0.25% และจะพักการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ" นายธนวรรธน์ กล่าว

พร้อมระบุว่า หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ในช่วงนี้จะเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีเงินไหลกลับเข้าไปในสหรัฐฯ และทำให้ให้ตลาดหุ้นและตลาดตราสารของสหรัฐฯ มีความโดดเด่น ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะเป็น sideway เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชีย และในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินบาทให้ปรับตัวอ่อนค่าอยู่ในระดับ 36.50 บาท/ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้ ส่วนต้นปี 59 มองว่าเงินบาทอาจจะอยู่ที่ระดับ 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ และหลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มมีการระดมทุน และมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กท์ต่างๆ เชื่อว่าเงินบาทจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงครึ่งหลังของปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ