พลังงานจับมือ 8 แบงก์ปล่อยกู้ Soft loan 4.4 พันลบ.ให้ผู้ประกอบการธุรกิจห้องเย็น โรงน้ำแข็งกว่า 200 แห่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 18, 2015 12:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ได้มอบนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติงานให้ได้ประโยชน์สูงสุดและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ปัจจุบัน แผนบูรณาการพลังงานระยะยาว ทั้ง 5 แผน ซึ่งประกอบด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas plan) และแผนบริหารน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ ในปี 2559 อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมเรียบร้อยแล้ว โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับเรื่องการประหยัดพลังงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เนื่องจากการประหยัดพลังงานถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานตามแผนบูรณาการพลังงาน และเห็นภาคอุตสาหกรรมเป็นภาคส่วนหนึ่งที่มีการใช้พลังงานค่อนข้างสูงมาก
"ดังนั้น ในปี 59 จะเน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการประหยัดพลังงานในภาคอุตสาหกรรม โดยอยากให้ภาคอุตสาหกรรมได้มีปรับเปลี่ยน และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ก็จะช่วยประหยัดพลังงาน จึงมีแนวทางการส่งเสริมด้วยมาตรการเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ Soft loan กระตุ้นให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อเป้าหมายสำคัญที่จะลดระดับการใช้พลังงานให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 79 ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน" นายอารีพงศ์กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์ จึงได้จัดลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)โครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยสถาบันการเงินกับผู้บริหารสถาบันการเงิน 8 แห่ง ได้แก่ 1.ธนาคารกรุงเทพ 2.ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 4.ธนาคารกสิกรไทย 5.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย 6.ธนาคารไทยพาณิชย์ 7.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และ 8.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของประเทศ ภายใต้โครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยสถาบันการเงิน

โดยได้เตรียมเข้าหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พลังงานจังหวัด และกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการวางระบบสนับสนุน รวมทั้งระบบการจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งจากวงเงินกู้จากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่จะปล่อยกู้ผ่านธนาคาร จำนวน 4,489 ล้านบาท คิดเป็นผลประหยัดพลังงานเป็นเงินกว่า 4,404 ล้านบาท หรือเทียบเท่าการนำเข้าน้ำมันดิบได้ถึง 213 ktoe และมั่นใจว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ธุรกิจห้องเย็น โรงน้ำแข็งที่เป็นเป้าหมายหลักได้เริ่มปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น​ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นการปล่อยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง เช่น เครื่องทำความเย็น, หม้อไอน้ำ, เครื่องอัดอากาศ เป็นต้น และจะมีธุรกิจห้องเย็น โรงน้ำแข็งที่จะเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 200 แห่ง

นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พพ.ได้ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงน้ำแข็งทั่วประเทศพบว่า มีโรงน้ำแข็งอยู่ 1,796แห่ง และห้องเย็น 670 แห่ง โดย พพ.จะได้เร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยสถาบันการเงินดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม เกิดกระแสการอนุรักษ์พลังงานในภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง และในระยะยาวนั้นจะได้ประโยชน์ในทุกมิติคือ มีความมั่นคงทางพลังงาน สร้างสมรรถนะในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า รวมไปถึงการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ