ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนของปีนี้(ม.ค.-พ.ย.58) ส่งออกรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 1,118,245 คัน เพิ่มขึ้น 7.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 546,135.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพ.ย. 2558 มีทั้งสิ้น 163,170 คัน เพิ่มขึ้น 3.25% จากเดือนพฤศจิกายน 2557 จากการผลิตรถกระบะรุ่นใหม่เพื่อส่งออก ที่ผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้วถึง 18.94% และผลิตรถกระบะ PPV เพื่อจำหน่ายในประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 10.78% แต่ลดลง 1.34% จากเดือนตุลาคม 2558
โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,760,310 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2557 ที่ 1.97%
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 76,421 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 4.6% เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 31 เดือน และเพิ่มขึ้น 12.5% จากเดือนตุลาคม 2558 จากการเร่งซื้อรถ PPV ซึ่งมียอดขายเติบโตถึง 199% เนื่องจากจะมีราคาสูงขึ้นจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ โดยคิดอัตราภาษีตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2559 แต่จากยอดขายรถยนต์นั่งและรถกระบะที่ยังลดลง แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว เพราะสินค้าเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ การลงทุนของภาครัฐยังไม่เกิดขึ้นมากนัก และ การลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัวจากตัวเลขการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2558 รถยนต์มียอดขาย 698,163 คัน ลดลงจากปี 2557 ในระยะเวลาเดียวกัน 11.9%
นายสุรพงษ์ คาดปริมาณการผลิตรถยนต์ ในปี 59 จะอยู่ที่ราว 2 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ 7.5-8 แสนคัน และยอดผลิตเพื่อส่งออกที่ราว 1.22-1.25 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเติบโตตามเศรษฐกิจ ที่สภาพัฒน์คาดว่า GDP 3-4% โดยยังต้องติมตามราคาสินค้าเกษตร และภัยแล้งว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ รวมถึงการลงทุนภาครัฐฯ และเอกชนจะเป็นไปตามคาดการหรือไม่ และการบริโภคจะฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด
"เบื้องต้นเราคาดว่ายอดการผลิตปี 59 คงทำได้ถึง 2 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเติบโตจากการผลิตเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ แต่ในประเทศเองก็เริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้นเพราะในเดือน ต.ค. เป็นเดือนแรกที่กลับมาเป็นบวกได้หลังติดลบมาต่อเนื่องถึง 31 เดือน เราจึงมองว่าคงจะขยายตัวได้ แต่คงต้องรอติดตามสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค ราคาสินค้าเกษตร ภัยแล้ง ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ และการลงทันภาครัฐฯและเอกชน จะฟื้นตัวได้อย่างที่คาดหรือไม่"นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับปี 58 นี้ คาดว่าปริมาณผลิตรถยนต์จะอยู่ที่ราว 1.92-1.93 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1.95 ล้านคันเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ฟื้นตัว และภัยแล้งยังเป็นผลกระทบต่อเกษตรกร นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐและเอกชนไม่กลับมาอย่างที่หลายฝ่ายคาดการไว้
"สำหรับยอดผลิตเพื่อส่งออกยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.2 ล้านคัน แต่ในส่วนของยอดผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศนั้นไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ แม้ว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในเดือน ต.ค. มองว่าได้รับผลดีจากประชาชนเร่งซื้อรถในช่วงปลายปี ก่อนที่จะมีการปรับภาษีใหม่ในปีหน้า แต่คงจะอยู่ที่เพียง 7.2-7.3 แสนคัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 7.5-8 แสนคัน"นายสุรพงษ์ กล่าว