วันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่มีปัจจัยอะไรสำคัญ ประกอบกับเป็นเทศกาลคริสต์มาสที่ตลาดต่างประเทศหลายแห่งโดยเฉพาะทางฝั่งยุโรป และสหรัฐอเมริกาปิดทำการ จึงทำให้การซื้อขายวันนี้คงจะเบาบางไปจนถึงสิ้นปี
"วันนี้บาทคงแกว่งแคบๆ ตลาดต่างประเทศหลายแห่งปิดทำการในวันคริสต์มาส วอลุ่มคงจะบางๆ ไปจนถึงสิ้นปี ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรสำคัญด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.20 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.16/21 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.31 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0953/0954 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0962 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.0980 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงการคลัง แถลงวันนี้ มั่นใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาษีเร่งใช้จ่ายสิ้นปี ผลักดันจีดีพีบีนี้โต 3% สูงกว่าเป้าเดิม 2.8% พร้อมกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณสูงกว่าปกติโดยมีวงเงินกู้เกือบ 1 แสนล้าน ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการใช้จ่ายตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเผยผู้รับสิทธิลดหย่อนชอปปิ้ง 3 ล้านคน
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค. 58 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมา ว่า จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้นเพราะเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประชาชนจำนวนมากจะนิยมซื้อของขวัญให้แก่กันซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทย ปี 58 ขยายตัวได้ถึง 3% ตามที่สภาหอการค้าไทยได้คาดการณ์ไว้
- แบงก์ชาติไม่ห่วงกรณีบิ๊กแบงก์ปล่อยกู้โครงการ 4G ชี้เสี่ยงน้อย เหตุการณ์ชำระเงินค่าประมูลจะทยอยจ่ายในระยะยาว มั่นใจสภาพคล่องในระบบเพียงพอรองรับได้ เผยพร้อมร่วมจัดงาน "60 ปี โทรทัศน์ไทย จากแอนะล็อกสู่ดิจิตอล"
- ธนารักษ์เตรียมประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินรับปีใหม่ ระบุทั่วประเทศราคาขยับเพิ่มขึ้น 25% สีลมยังครองแชมป์แพงสุด ตารางวาละ 1 ล้านบาท เชื่อเริ่มมีการเก็งกำไรที่ดินพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและรถไฟความเร็วสูง
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในปีนี้ ท่ามกลางการปรับสมดุล position ก่อนช่วงวันหยุดยาว โดยดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มในช่วงขาลงตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าทำกำไรจากการทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อเร็วๆนี้ อย่างไรก็ดี วันนี้(25 ธ.ค.) ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส
- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 270,000 ราย ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 42 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 42 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข้อมูลที่บ่งชี้ว่า อุปทานน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งรวมถึงสต็อกน้ำมันดิบและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังช่วยหนุนแรงซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักด้วย
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 38.10 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 37.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
- ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 3.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากประชาชนต้องการหางานที่ดีกว่า ตัวเลขว่างงานญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังจากที่ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 20 ปี ที่ 3.1% เมื่อเดือนต.ค.