พร้อมกันนั้น จะมีการปรับปรุงกฏหมายอีก 46 ฉบับทั้งของกรมสรรพสามิตและกรมสรรพากร เน้นการปรับปรุงให้เป็นตามหลักสากล ไม่ให้มีการลักลั่นและไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมถึงการพัฒนาตลาดทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก(เอสเอ็มอี)สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้มากขึ้น อีกทั้งผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นรูปธรรมภายในปี 59
นอกจากนี้จะมีการจัดทำแผนแม่บทการเงินการคลังเพื่อสังคม โดยใช้หลักการประชารัฐให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจะเป็นการทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เพียงพอต่อการยังชีพ มีความรู้พื้นฐานด้านการเงิน มีหลักประกันในวัยชรา และให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้
และในปีหน้า กระทรวงการคลังจะเดินหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแบบบูรณาการ ให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมทั้งหาแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้มาตรการทางการเงินการคลังเข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ นอกจากนั้นทางกระทรวงจะพยายามทำให้การจัดอันดับด้านธุรกิจมีอันดับที่สูงขึ้นด้วย