นอกจากนี้ที่ประชุมกบง.ยังมีมติให้จัดทำแผนแม่บทปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) เพื่อเตรียมลอยตัวราคา NGV ให้เป็นไปตามกลไกตลาด จากปัจจุบันที่ตรึงอยู่ในระดับ 13.50 บาท/กก. โดยคาดว่าจะสามารถลอยตัว NGV ได้ในเดือนก.พ.นี้ เนื่องจากคาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะปรับลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้ราคา NGV ที่แท้จริงปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 13.50 บาท/กก. ขณะที่คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ 35-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ขณะเดียวกันกบง.ยังได้พิจารณาการคำนวณสูตรการผสมเอทานอล ในน้ำมันเบนซิน และสูตรการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ โดยให้มีการผสมในเกณฑ์ขั้นต่ำ จากเดิมที่ผู้ค้าน้ำมันจะใช้เกณฑ์ขั้นสูงในการผสม เช่น E85 กำหนดสัดส่วนผสมเอทานอลไว้ที่ 75-85% ก็ให้ผสมขั้นต่ำที่ระดับ 75% และให้ใช้เกณฑ์ขั้นต่ำในการคำนวณต้นทุนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนหน้าโรงกลั่นได้ 1 บาท/ลิตร เป็นต้น และจะทำให้ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันปรับตัวลงตามลำดับด้วย
รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังพิจารณาการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ที่มีผู้เสนอให้เปิดเสรี โดยทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เสนอโครงการนำร่องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) หน่วยงานละ 50 เมกะวัตต์ แต่จะยังไม่เป็นการเปิดเสรี โดยจะดูผลถึงสิ้นปีนี้ก่อน