ฐานะการคลัง 2 เดือนแรกปีงบ 59 รัฐนำส่งรายได้ 3.5 แสนลบ. เบิกจ่าย 6 แสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 6, 2016 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.ค.-พ.ย.58) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 355,757 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 607,129 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 208,169 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 346,428 ล้านบาท
"การเบิกจ่ายงบประมาณที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงถึงความพยายามเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง" ผู้อำนวยการ สศค. กล่าว

ทั้งนี้ เฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2558 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 58,527 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 54,155 ล้านบาท และเป็นการขาดดุลนอกงบประมาณ 4,372 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 346,428 ล้านบาท

โดยรัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 178,773 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 34,558 ล้านบาท (คิดเป็น 24.0%) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จัดเก็บได้สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว

ทั้งนี้ รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 232,928 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27,170 ล้านบาท (คิดเป็น 13.2%) ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ 197,487 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 14.9% และรายจ่ายลงทุน 11,479 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 31.0% และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 23,962 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4.5%

สำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 63,288 ล้านบาท เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ 14,452 ล้านบาท และรายจ่ายชำระหนี้ของกระทรวงการคลัง 6,065 ล้านบาท

ส่วนดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนพฤศจิกายน 2558 ขาดดุล 54,155 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 4,372 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเบิกจ่ายเงินจัดสรรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(อปท.) สุทธิ 8,271 ล้านบาท เบิกจ่ายเงินคงคลังอื่นๆ สุทธิ 8,287 ล้านบาท ขณะที่มีรายรับจากเงินฝากคลังของเงินกู้โครงการต่างๆ สุทธิ 10,427 ล้านบาท การประมูลตั๋วเงินคลังสุทธิ 1,993 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 58,527 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 109,075 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุลเท่ากับ 50,548 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ