นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 36.28/29 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.27 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวทำ High ที่ระดับ 36.35 และ ทำ Low ที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงนี้ประเด็นกดดันยังคงมาจากกรณีธนาคารกลางจีนวางแผนอัดฉีดเงินมูลค่า 1.30 แสนล้านหยวน หรือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ทุกสกุลในภูมิภาคพากันอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง...ซึ่งช่วงนี้คงต้องติดตามเรื่องจีนเป็นหลักและคืนพรุ่งนี้จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ...พรุ่งนี้ต้องดู 2 เรื่องนี้"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.55 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 117.97 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0840 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0807 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,224.83 จุด ลดลง 35.21 จุด, -2.79%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,507.99 ลบ.(SET+MAI)
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวถึงการที่ดัชนี SET ปรับตัวลดลงแรงกว่า 30 จุดในช่วงบ่ายวันนี้ว่า เป็นผลจากปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ระงับการซื้อขายในวันนี้ หลังใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์เนื่องจากดัชนีร่วงกว่า 7% ทำให้นักลงทุนมองเป็นผลลบต่อตลาดหุ้น และส่งผลตลาดทั่วโลก
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปีเคลื่อนไหวในกรอบ 36.08-36.35 บาท/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าลงประมาณ 0.7% นับจากสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับค่าเงินภูมิภาคท่ามกลางความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกที่มีมากขึ้น ซึ่งความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินไทยหลังช่วงปีใหม่นี้เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ
- คณะกรรมการส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เฉพาะกิจ) เห็นชอบการจัดสรรเงินกองทุนของ สสว.จำนวน 1,977.645 ล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ต.ค.58 เพื่อบูรณาการงานส่งเสริม SMEs ของประเทศให้เติบโตได้ตามศักยภาพ
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.58 อยู่ที่ระดับ 76.1 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และดีที่สุดในรอบ 7 เดือน
- นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลปีใหม่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "ช้อปช่วยชาติ" ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นราว 17,500 ล้านบาท โดยมาตรการนี้ประเมินว่ามีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2558 เพิ่มขึ้น 0.1%
- ธนาคารโลกได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ในรายงาน Global Economic Prospects ของธนาคารโลกระบุว่า ปีนี้เศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัว 2.9% ในแง่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง ซึ่งลดลง 0.4% จากที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.2558
- นางฟรานชิสกา ออห์นซอร์จ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโลกกล่าวว่า จีนกำลังปรับตัวในทิศทางที่เหมาะสมและมีความคืบหน้าในความพยายามเพื่อปรับสมดุลทางเศรษฐกิจของประเทศ
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศในวันนี้ว่า CSRC จะควบคุมไม่ให้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทำการขายหุ้นมากกว่า 1% ของหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด ภายในระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วงลงไปกว่า 7% จนเป็นเหตุให้ CSRC จีนตัดสินใจระงับการซื้อขายตลอดทั้งวันในวันนี้ และนับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่ตลาดหุ้นจีนใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อสกัดความผันผวนในตลาด