ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 36.23-36.37 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงแบบผสมผสาน
"เงินบาทปิดตลาดอ่อนค่าจากช่วงเช้า จากความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจของจีน" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินคาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 36.25-36.40 บาท/ดอลลาร์
"ทิศทางเงินบาทวันพรุ่งนี้ยังมีทิศทางอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.76 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.70 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,255.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด, +1.68% มูลค่าการซื้อขาย 46,997.03 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 379.39 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในปี 59 จะเติบโตจากปี 58 ในกรอบ 0.1-4.1% ด้วยมูลค่า 214,000-222,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีแนวโน้มค่อนข้างมากที่จะเติบโตในระดับ 2% มูลค่า 218,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากติดลบต่อเนื่อง
- กระทรวงการคลัง กำหนดเงื่อนไขสำคัญเพิ่มเติมเพื่อให้การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย โดยให้ผู้ขออนุญาตใช้เงินที่ได้รับจากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยเป็นเงินบาทในประเทศไทย มีรายชื่อดังนี้
1. Central American Bank for Economic Integration (CABEI)
2. Australia and New Zealand Banking Group (ANZ)
3. National Bank of Abu Dhabi (NBAD)
4. Malayan Banking Berhad (Maybank)
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุจีนกำลังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกครั้งใหญ่ เพราะขณะที่จีนจำเป็นต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้สามารถรับมือกับภาวะหนี้สินที่สูงขึ้นนั้น จีนก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลงต่อเงินหยวนด้วย
- สื่อต่างประเทศ รายงานธนาคารกลางจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดออฟชอร์เพื่อปกป้องสกุลเงินหยวน ด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดฮ่องกงส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในตลาดฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่จะสกัดการเก็งกำไรจากเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างอัตราดอกเบี้ยออนชอร์และดอกเบี้ยออฟชอร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้สกุลเงินหยวนสามารถรวมเข้าในตะกร้าสกุลเงิน SDR ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเหตุวิตกเศรษฐกิจจีน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 341 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.215% ลดลง 0.010% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ โดยตลาดโตเกียวปิดทำการเมื่อวานนี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน มี.ค.58 เพิ่มขึ้น 0.05 จุด แตะที่ 149.38 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
- นายหลี่ ผู่หมิน โฆษกคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน(NDRC) คาดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2558 จะอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งสอดคล้องเป้าหมายของรัฐบาล โดยเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก มีการขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 3 ปี 2558 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
- กระทรวงการคลังจีน(MOF) เผยจีนจะปรับปรุงการบริหารจัดการหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น ตลอดจนกลไกควบคุมความเสี่ยง หลังจากที่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการการขยายตัวของหนี้สิน ท่ามกลางภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น รายงานความเชื่อมั่นทางธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจ ปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากยอดขายที่สดใสในช่วงเทศกาลคริสต์มาและปีใหม่ หลังดัชนีดังกล่าวปรับตัวลงในเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค diffusion index ในกลุ่มอาชีพที่อ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ หรือ ''economy watchers" อาทิ คนขับรถแท็กซี่ และพนักงานร้านอาหาร ปรับตัวสูงขึ้น 2.6 จุด จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 48.7
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI (West Texas Intermediate) มีแนวโน้มร่วงลงต่ำกว่าระดับ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการ และดิ่งลงไปแตะระดับ 30.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้นๆ เมื่อวานนี้