เงินบาทเปิด 36.30 แนวโน้มผันผวน นลท.จับตาตัวเลขดุลการค้าจีน-ทองร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 13, 2016 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 36.30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.32 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวค่าเงินหยวนเช่นเดียวกันภูมิภาค
"การเข้าแทรกแซงค่าเงินหยวนของทางการจีนวานนี้ส่งผลให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าตามไปด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

ตลาดจับตาดูการประกาศตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของจีน และแรงซื้อดอลลาร์ของผู้นำเข้าทองคำในประเทศหลังราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงมามาก

นักบริหารเงินคาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 36.20-36.35 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทน่าจะมีทิศทางผันผวนในกรอบที่คาดการณ์ไว้" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.22 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 117.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0816 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 36.3110 บาท/ดอลลาร์
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ 4 ราย ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาท (บาทบอนด์) ในประเทศไทย ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย. 2559 วงเงินรวม 4.9 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย ธนาคารเซ็นทรัล อเมริกัน แบงก์ ฟอร์ อีโคโนมิก อินทีเกรชั่น (ซีเอบีอีไอ) วงเงิน 6,000 ล้านบาท ธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงก์กิ้ง กรุ๊ป (เอเอ็นซี) วงเงิน 8,000 ล้านบาท ธนาคารเนชั่นแนล แบงก์ ออฟ อาบูดาบี (เอ็นบีเอดี) วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท และธนาคารมาเลเซียน แบงก์กิ้ง เบอร์ฮัด (เมย์แบงก์) วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท
  • นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงจะจัดสัมมนาใหญ่เพื่อประเมินความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยลงลึก 5 เรื่อง คือ นโยบายการค้า ตลาดในและต่างประเทศ การลงทุนต่างประเทศ นโยบายการส่งเสริมสินค้าแห่งอนาคต และภาคการผลิต ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 21 มกราคม ก่อนนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ใช้ประกอบการผลักดันเป็นนโยบายของประเทศ
  • นายอัทธ์ พิศาลวาณิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ฯประเมินส่งออกไทยในปี 59 มีมูลค่า 218,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 2% จากปีก่อน ซึ่งเป็นมูลค่าที่กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจสหรัฐ, อินเดีย และกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ดีขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน,ศักยภาพการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งสินค้าไทยในตลาด สหรัฐ, จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย รวมถึงราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง, ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศและก่อการร้าย เป็นต้น
  • พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงต่อจากนี้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีปัญหาโดยเน้นการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจให้เติบโตจากภายในด้วยการขับเคลื่อนงานหลัก ๆ 4 โครงการ เริ่มจากการส่งเสริมให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น,การส่งเสริมให้เกิด 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอี ,การส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่น และการสร้างตลาดกลางค้าขายสินค้าเกษตร
  • นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปีนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เฉลี่ยทั้งปีคาดอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท.จึงได้ทบทวนชะลอแผนลงทุนใหม่ในต่างประเทศปีนี้ออกไปก่อน
  • สำนักงานศุลกากรจีน เผยยอดส่งออกในเดือน ธ.ค.58 ปรับตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากร่วงลง 3.7% ในเดือน พ.ย.58 ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากร่วงลง 5.6% ในเดือน พ.ย.58 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือน ธ.ค.58 เพิ่มขึ้นเป็น 3.821 แสนล้านหยวน(5.79 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.431 แสนล้านหยวนในเดือน พ.ย.58
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่สูงเกินไป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยในระหว่างวัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 30 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ลดลง 97 เซนต์ หรือ 3.1% ปิดที่ 30.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2546 ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ปรับลง 69 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 30.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2547
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนได้พยายามสร้างเสถียรภาพสกุลเงินหยวน รวมทั้งตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 11 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,085.20 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจากที่มีข่าวว่าจีนได้ดำเนินความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพแก่สกุลเงินหยวน โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0875 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.59 เยน จาก 117.50 เยน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ