อย่างไรก็ดี ต้องติดตามปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2559 จากความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศที่ลากยาวข้ามปี เพราะแม้ตัวแปรความเสี่ยงทางเศรษฐกิจดังกล่าว อาจจะยังไม่มีผลโดยตรงในทันทีต่อการใช้จ่าย แต่ผลกระทบในแง่ของความรู้สึกและความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนอาจเริ่มทยอยปรากฏขึ้น เมื่อตัวแปรเหล่านี้มีผลกดดันทิศทางตลาดหุ้น ราคาสินค้าเกษตร สินค้าโภคภัณฑ์ รายได้ของธุรกิจส่งออก รายได้เกษตรกร และมีผลกระทบต่อเนื่องมาที่ภาวะการมีงานทำ และรายได้ของภาคครัวเรือนในท้ายที่สุด
"ดังนั้น ความหวังต่อการประคองเส้นทางเศรษฐกิจไทยในภาพใหญ่ และการพลิกฟื้นรายได้ ความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนในปีนี้ น่าจะอยู่ที่แรงหนุนจากภาครัฐในการเร่งใช้จ่าย และผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาแรงฉุดจากปัจจัยลบดังกล่าว" เอกสารเผยแพร่ระบุ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือนธ.ค.58 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ 45.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 45.0 ในเดือนพ.ย.58 การขยับขึ้นของดัชนี KR-ECI ตลอดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 น่าจะช่วยสะท้อนภาพบรรยากาศการฟื้นตัวของการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นในภาคครัวเรือน ซึ่งได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมเข้ามาเป็นระยะจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จนถึงโค้งสุดท้ายของปีที่มีการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลปีใหม่
ขณะที่ราคาน้ำมันและพลังงานในประเทศที่ทยอยปรับลดลงตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในสินค้ากลุ่มนี้ลงแล้ว ยังทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ค่อนข้างทรงตัว (ไม่ขยับสูงขึ้นมาก) ซึ่งอาจถือว่าเป็นผลบวกทางอ้อมต่อครัวเรือนในภาพรวม นอกจากนี้ ภาวะการบริโภคและการครองชีพของครัวเรือนบางส่วน ก็ได้รับปัจจัยบวกจากการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษประจำปีของหลายองค์กรในช่วงปลายปีด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หากมองในมุมของครัวเรือน จะพบว่ารายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี แม้จะทำให้ภาระของบางครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็น่าจะเป็นรายจ่ายระยะสั้นในช่วงเทศกาล ดังนั้นการปรับตัวลงของดัชนีภาระค่าใช้จ่ายมาที่ 37.0 ในเดือนธ.ค.(จากระดับ 38.5 ในเดือนพ.ย.) จึงยังไม่น่าจะสะท้อนภาพลบของภาวะการครองชีพของครัวเรือน ขณะที่ดัชนีสะท้อนการคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ 47.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 47.0 ในเดือนก่อนหน้า
"การเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนนี้เพียงลำพัง น่าจะสะท้อนสัญญาณที่ดีต่อเนื่องสำหรับการฟื้นตัวของบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของภาคเอกชน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มุมมองต่อประเด็นค่าครองชีพในด้านต่างๆ ยังคงฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ และมีความอ่อนไหว หากสัญญาณบวกของเศรษฐกิจในภาพใหญ่ยังคงเลื่อนเวลาออกไป" เอกสารเผยแพร่ระบุ