ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการคัดเลือกผู้พัฒนาพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 117 วัน นับตั้งแต่ประกาศสรรหาผู้ลงทุนพัฒนา
เรื่องที่ 2 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 (นครพนม เชียงราย กาญจนบุรี) เห็นชอบการกำหนดแปลงที่ดินของรัฐที่มีความเหมาะสมสำหรับให้เอกชนและหน่วยงานภาครัฐใช้ประโยชน์ และแนวทางจัดหาที่ดินดังนี้ นครพนม 1,860 ไร่ ในต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม, เชียงราย จำนวน 3 พื้นที่ รวม 2,052 ไร่ ใน ต.สถาน อ.เชียงของ/ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน / ต.โป่งผา อ.แม่สาย, กาญจนบุรี 8,193 ไร่ ใน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยมอบหมายกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำรายละเอียดทางด้านกฎหมาย เสนอ คสช.เพื่อถอนสภาพที่ดินของรัฐประเภทต่างๆ แทนการดำเนินงานตามกระบวนการปกติ และให้กรมธนารักษ์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่มีการถอนสภาพ
เรื่องที่ 3 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส โดยได้มอบหมายการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อที่ดินเอกชน จ.นราธิวาส 2,277 ไร่ ใน ต.ละหาร อ.ยี่งอ และ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส เพื่อนำมาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม