"รัฐบาลมีความจริงใจและตั้งใจที่จะแก้ปัญหาซึ่งมาตการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 45 บ. เป็นมาตรการแรก ที่จะเข้าไปรับซื้อยางพาราเพื่อนำเข้าสู่กลไกการผลิตช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร ยืนยันว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนต้องไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ
พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการช่วยชี้แจงและสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้เกิดกับเกษตรกรหลังจากที่มีคนบางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อมูล ทำให้เกษตรกรเสียประโยชน์ พร้อมฝากถึงทุกส่วนราชการ ให้ความสนใจกับนวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงและให้ช่วยเหลือเรื่องการวิจัยและการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้สินค้าเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งจะเร่งให้มีการรับรองมาตรฐานใหักับผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่ไม่มีความซับซ้อนด้านเทคนิค
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกคนใช้สินค้าไทยที่มีคุณภาพเช่นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากยางพารา ขณะที่ส่วนตัวเลือกใช้สินค้าแบรนด์เนมเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นและจะเลือกใช้สินค้าไทยที่มีคุณภาพด้วย
ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันจัดการแสดงซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการแก้ปัญหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ม.ร.ว.ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยฝ่ายการจัดหารายได้ประธานคณะกรรมการจัดหาทุนกองทุนส.ธ. เพื่อผู้สูงวัย นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสื้อโครงการ "เพราะรัก" ภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาจำหน่าย ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมบริจาคเงินในโครงการและกล่าวเชิญชวนให้ทุกคนได้ช่วยกันสนับสนุนโครงการที่จะนำไปดูแลผู้สูงอายุและกล่าวด้วยว่าวันนี้ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นำไปสู่การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆเพราะการพัฒนาในปัจจุบันย่อมมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น