นายประธาน ริจนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี และผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเวอร์กรีน พลัส จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล กล่าวว่า วันนี้คณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อให้มาแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าชีวมวล ได้นัดประชุมเป็นครั้งแรก ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการยังคงมีข้อเรียกร้องเดิมเพื่อให้รัฐบาลเปลี่ยนการรับซื้อจากผู้ที่มีสัญญารับซื้อระบบ Adder เดิมมาเป็นระบบ FiT เหมือนกันทุกรายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ประกอบกับการใช้ระบบ Adder เดิมนั้น ปัจจุบันประสบกับภาวะขาดทุนทุกเดือนตามค่าเอฟทีที่ปรับลดลง
เนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตไฟฟ้าระบบ Adder มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 3.10 บาท/หน่วย รวม adder อีกในอัตรา 30 สตางค์/หน่วย เป็นเวลา 7 ปี และผู้ประกอบการ FiT จะมีรายได้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 4.24 บาท/หน่วย รวมกับพรีเมียม อีก 30 สตางค์/หน่วย เป็นเวลา 20 ปี โดยสูตรราคาในระบบ Adder ไม่ได้อิงกับต้นทุนที่แท้จริง แต่ยังอิงกับค่าเอฟทีด้วย โดยค่าเอฟทีที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาตามราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้รายได้ที่กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าระบบ Adder ลดลงด้วย ท่ามกลางภาวะราคาเชื้อเพลิงและแรงงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการขาดทุนราว 6 ล้านบาท/เดือน จากโรงไฟฟ้าขนาด 9.8 เมกะวัตต์ และทำให้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในระบบนี้ต้องหยุดการผลิตไฟฟ้าในบางช่วง และในอนาคตหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็อาจจะต้องหยุดกิจการ ขณะที่บางรายก็ได้มีการขายกิจการให้กับบจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯที่สามารถหาแหล่งเงินทุนในการดำเนินการได้ในระดับที่ต่ำกว่า
สมาชิกของสมาคมโรงไฟฟ้าชีวมวล ปัจจุบันมีอยู่ราว 206 ราย มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 2 พันเมกะวัตต์ โดยเป็นผู้ประกอบการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระบบ Adder จำนวน 111 ราย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระบบ FiT