(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 36.20/21 หลัง ECB คงดอกเบี้ยแต่ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม มองกรอบวันนี้ 36.15-36.25

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 22, 2016 11:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 36.20/21 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.25 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนนี้มี ECB Meeting โดยประธานธนาคารกลางยุโรปออกมาประกาศคง Rate แต่ถ้าจับใจความจากประโยคที่เขาพูดเหมือนจะมี Room ที่จะทำ QE ไปเรื่อยๆ ตลาดก็ตีความกันออกมาว่าน่าจะมีการทำ QE ต่อแม้จะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม ส่งผลให้ยูโรถูกเทขายออกมาจากที่ทำ High 1.0919 ดอลลาร์/ยูโร มาทำ Low ที่ 1.0792 ดอลลาร์/ยูโร แต่ถ้าเทียบกับเมื่อปลายปีแล้วตอนปลายปี ตอนนั้นมีผลต่อตลาดมากกว่า ลงหนักกว่านี้" นักบริหารเงิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการประชุม ECB ครั้งต่อไปในช่วงเดือนมี.ค.59 รอดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาและส่งผลต่อตลาดรุนแรงแค่ไหน

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 36.15-36.25 บาท/ดอลลาร์

"มีโอกาสลงไป Test ด้านล่างถ้าหลุดแนวรับอาจจะมีโอกาสแข็งค่า แต่คิดว่าวันนี้น่าจะรับแล้วเด้ง"นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.1600 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(21 ม.ค.) อยู่ที่ 1.52439% และ THAI BAHT FIX 6M(21 ม.ค.) อยู่ที่ 1.59163%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 116.94 เยน/ดอลลาร์
  • ล่าสุดเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0850 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0895 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 36.2670 บาท/ดอลลาร์
  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปี 59 นี้ ธปท. จะติดตามและประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดหลังจากที่เศรษฐกิจ โลกผันผวนต่อเนื่องจากปี 58 ที่ผ่านมาและถือว่ายังมีความเสี่ยงสูงต่อเนื่องมาปีนี้ โดยจะประสานกับหน่วยงานเศรษฐกิจทั้งของภาครัฐและองค์กรกำกับดูแลต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็น ประสานมุมมอง และร่วมกันพัฒนากรอบการติดตาม ประเมินเสถียรภาพ ระบบการเงินที่มีประสิทธิภาพเพื่อร่วมกันรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน และสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
  • เอสเอ็มอีแบงก์เดินหน้าแก้ปัญหาเอ็นพีแอลส่งทีมงานดูแลลูกค้าคุณภาพอ่อนแอใกล้ชิด สกัดตกชั้นเอ็นพีแอล พร้อมปล่อยกู้หนุนธุรกิจเกิดใหม่เข้าลงทุนรายแรก-พัฒนาผู้ประกอบการ-ร่วมลงทุน
  • นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.มีแนวคิดจะเสนอให้รัฐบาลเรียกเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ คนละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 360 บาท/คน/ครั้ง เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว
  • สถาบันจัดอันดับระดับโลก IMD ชี้จุดอ่อนประเทศไทย ขาดความต่อเนื่องนโยบายรัฐ คอร์รัปชัน กฎระเบียบซับซ้อน แนะเพิ่มความร่วมมือ รัฐ-เอกชน ทำโรดแมปแก้ปัญหา "อภิรดี" เตรียมเสนอ ครม.รับทราบ มั่นใจการจัดลำดับดีขึ้นแน่
  • 4 ผู้บริหารค่ายโอเปอเรเตอร์ไทยเผยแผนให้บริการ 4G ปี 2559 มั่นใจปีนี้คนไทยหลายล้านรายตอบรับบริการ 4G อย่างจริงจัง บนประโยชน์จากความเร็วอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ที่เหนือกว่า 3G พร้อมระบุลูกค้าต้องการ 2 ส่วนหลักคือ คุณภาพ และบริการ ที่ต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น
  • นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางการฮ่องกงจะยกเลิกการผูกติดค่าเงินเหรียญฮ่องกงกับเงินเหรียญสหรัฐนั้น น่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดการเงินที่คาดกันไปเอง เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นแผนของทางการฮ่องกงที่จะยกเลิกแต่อย่างใด
  • นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณากำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2560 โดยทุกหน่วยงานมีความเห็นใกล้เคียงกันว่าเศรษฐกิจปี 2560 จะขยายตัวได้ 4% มีอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 2% (ช่วงคาดการณ์ 1.5-2.5% ต่อปี)
  • สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนมี.ค.
  • นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงเมื่อวานนี้ว่า ECB อาจทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งคำกล่าวของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กองกำลังรัฐอิสลาม (IS) ได้โจมตีคลังเก็บน้ำมันของลิเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 29.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 29.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ม.ค. เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 486.5 ล้านบาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,098.2 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่า 3.525 แสนล้านหยวน (5.35 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดการเงินผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคาร ทั้งนี้ PBOC ปล่อยเงินกู้ดังกล่าวอายุ 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75%, 3.0% และ 3.25% ตามลำดับ

นอกจากนี้ PBOC เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าว มีขึ้นเพื่อให้การสนับสนุนภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ และที่อ่อนแอของประเทศ

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 293,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2015 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 277,000 ราย

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 46 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ