สำหรับสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางเคมีและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง(ตอนที่ 28-39) สิ่งทอ(ตอนที่ 50-59) โลหะและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ(ตอนที่ 70 74 76 และ 81) เครื่องจักร และอุปกรณ์ไฟฟ้า(ตอนที่84-85) ชิ้นส่วนยานยนต์(ตอนที่ 87) และอุปกรณ์ที่ใช้ในทางทัศนศาสตร์(ตอนที่ 90) เป็นต้น สำหรับสินค้าเกษตรที่ได้รับสิทธิฯ ได้แก่ ผักและผลไม้(ตอนที่ 7 8 15 20 เป็นต้น) ซึ่งระยะเวลาในการยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าส่วนใหญ่กำหนดไว้ 3 ปี คือตั้งแต่ 1 ม.ค.59-31 ธ.ค.61
นอกจากนี้ EU ได้ออกระเบียบ Council Regulation(EU) 2015/2448 เพื่อปรับปรุงการบริหารโควตาภาษี(Autonomous Tariff Quota) สำหรับรายการสินค้าที่มีการผลิตในสหภาพยุโรปแต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมภายใน เช่น สินค้าบางรายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีและพลาสติก(ตอนที่ 29-39) โลหะและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ(ตอนที่ 76) และเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า(ตอนที่ 85) เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบรายละเอียดของรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ ภายใต้ระเบียบทั้งสองฉบับดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรปที่
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การยกเว้นภาษีฝ่ายเดียวเป็นการชั่วคราวภายใต้ระเบียบ Autonomous Tariff Suspension/Quota เป็นการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าวัตถุดิบที่ขาดแคลนใน EU โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของสหภาพฯ โดยเฉพาะ SMEs ให้มีศักยภาพในการแข่งขัน มีการจ้างงาน และปรับโครงสร้างการผลิตให้ทันสมัย โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะมีการพิจารณาให้สิทธิฯ สำหรับสินค้าวัตถุดิบ ที่ผู้นำเข้ายื่นคำร้อง ปีละ 2 รอบ คือรอบวันที่ 1 มกราคม และวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้จัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยทั้งในเรื่องแนวทางการใช้ประโยชน์จากระเบียบดังกล่าวและขั้นตอนการยื่นคำร้องฯ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยล้อบบี้ผู้ประกอบการในสหภาพฯ ยื่นขอสิทธิฯ สำหรับสินค้าที่มีการนำเข้าจากไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มแต้มต่อให้สินค้าไทยในตลาดยุโรป เนื่องจากสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ ภายใต้ระเบียบดังกล่าวส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าทั้งหมด