นายกฯ แนะทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาขับเคลื่อนประเทศ สร้างศักยภาพ ย้ำเข้ามาบริหารเพื่อปลดล็อคปัญหา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 25, 2016 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ" การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2559" ในงานสัมมนา“F.T.I. OUTLOOK 2016 :ทิศทางอุตสาหกรรมไทย ในปี 2559” ว่า การพัฒนาประเทศที่ผ่านมาเติบโตค่อนข้างช้าจากปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศและปัญหาภายในประเทศ นอกจากนี้ยังผู้ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน ดังนั้นวันนี้ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ต้องสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน สร้างศักยภาพในการต่อรอง ซึ่งรัฐบาลจะบริหารราชการใหัเกิดผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนาตามโรดแมพสร้างความน่าสนใจต่อลงทุน การปรับปรุงกฏหมายให้ทันสมัย และเกิดการบูรณาการ ไม่ใช่ใช้แต่มาตรา 44 ในการแก้ปัญหา โดยรัฐบาลพยายามให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ต้องสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน เร่งรัดความคืบหน้าเศรษฐกิจพิเศษ สร้างแนวทางการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่อง ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง และดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ยังต้องช่วยกันสร้างความรับรู้ ในสิ่งที่ต้องสร้างความมั่นคง การพัฒนา และต้องดูแลสภาพแวดล้อม ไปสู่เป้าหมายการลดความเหลื่อมล้ำ

ขณะที่แนวทางการพัฒนาประเทศไทยจะต้องเดินตามยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและต้องมีแผนปฏิบัติให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศต้องมีการบูรณาการยุทธศาสตร์กันอย่างชัดเจน ซึ่งตนเองจะแก้ไขการบริหารราชการแผ่นดินใหม่ โดยการปรับปรุง พ.ร.บ.การจัดทำงบประมาณ เพื่อการปรับการจัดทำงบประมาณแบบใหม่ ซึ่งต่อจากนี้ไปการจัดทำงบจะต้องให้รัฐบาลประชุมร่วมกันก่อน เพื่อจัดทำดับความสำคัญของเรื่องต้องดำเนินการ ต้องหารือถึงนโยบายที่ต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และนโยบายใดที่ควรเป็นเรื่องการปฏิรูป โดยแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องทำให้สอดคล้อง ไม่ใช่แบบปัจจุบันที่แต่ละกระทรวงรวบรวมมา พอเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ก็ตัดงบไป 5-10% จากนั้นก็บริหารต่อไป ซึ่งหลังจากนี้แนวทางการพัฒนาประเทศจะเกิดความชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ยังฝากภาคอุตสาหกรรมให้ช่วยกันพัฒนาบุคลากรที่ตรงความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะภาคการวิจัยการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพราะภาคอุตสาหกรรมใหญ่ๆมีศักกายภาพ ซึ่งบริษัทใหญ่ๆต้องช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่เอาเปรียบเกษตรกร พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลง และร่วมสร้างความร่วมมือประชารัฐ โดยการช่วยเหลือชุมชนสร้างความรักความไว้ใจให้เกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าประเทศไทยจะมีปัญหามากขนาดนี้ ซึ่งน่าจะมาจากการที่ทุกคนต่างความคิด ซึ่งล้วนแต่คิดดี แต่เป็นความคิดที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นต้องช่วยกันหาทางออกให้ได้โดยสันติวิธี ตนเองเข้ามาก็เพื่อปลดล็อกให้สามารถคลี่คลายปัญหาได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ