การจัดงานดังกล่าวครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนของไทย ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพื่อรุกตลาดกัมพูชาทั้งในมิติการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว จากนั้นจะมีการจัดงาน TOP Thai Brands เต็มรูปแบบเช่นเดียวกันนี้ ณ กรุงมะนิลา ย่างกุ้ง โฮจิมินห์ และเวียงจันทน์ ตามลำดับ
ในส่วนของเมืองรอง กรมฯ จัดงานแสดงสินค้าไทย Mini Thailand Week ณ เมืองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไฮฟอง/เกิ่นเทอ/ฮานอย (เวียดนาม), หลวงพระบาง/จำปาสัก/ สะหวันนะเขต (สปป.ลาว), เสียมเรียบ/กัมปงจาม/กัมปงสะปือ/พระสีหนุ/ตะโบงคะมุม (กัมพูชา), ตองยี (เมียนมา), เซบู (ฟิลิปปินส์) และรัฐเซอลังงอร์ (มาเลเซีย)
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ที่ได้มอบนโยบายต่อผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหรือทูตพาณิชย์ ให้เร่งเจาะตลาดอาเซียนเชิงลึกโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งยังมีกำลังซื้อสูงท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กรมฯ ได้ขานรับและจัดทำโครงการบุกเจาะตลาดเพิ่มเติมในรูปแบบต่างๆ เช่น การสนับสนุนผู้ประกอบการตั้งจุดกระจายสินค้า การจัดตั้งศูนย์ให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโลจิสติกส์ (อาคารที่พัก คลังสินค้า) รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมด้านการสร้างเครือข่ายระหว่างนักธุรกิจไทยและ CLMV
"รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการเจาะตลาดอาเซียนเชิงลึก หรือ Deepening ASEAN โดยเปลี่ยนกรอบความคิดให้มองอาเซียนเสมือนเป็นตลาดเดียว ใช้กลยุทธ์เจาะตลาดเมืองรองเพื่อการขยายส่วนแบ่งตลาดสินค้าและบริการของไทยให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เจาะตลาดเมืองหลวงด้วยสินค้าและบริการของไทยที่มีแบรนด์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน บ่มเพาะและสนับสนุน SMEs ไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศผ่านการค้าออนไลน์" นางมาลี กล่าว