สำหรับความตกลงแรกเป็น“ความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย (Trade Agreement between the Government of the Islamic Republic of Iran and the Government of the Kingdom of Thailand)" ซึ่ง รมว.พาณิชย์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จะเป็นผู้ไปลงนามในร่างความตกลงดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม อำนวยความสะดวก และพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
ภาคีคู่สัญญาจะอำนวยความสะดวกทางการค้าในเรื่องต่าง ๆ ให้แก่กัน อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจัดตั้งสำนักงานการค้าหรือศูนย์เพื่อการค้าความร่วมมือระหว่างสภาหอการค้าและการแลกเปลี่ยนผู้แทนกาค้า
ภาคีคู่สัญญาตกลงที่จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ของทั้งสองประเทศ เพื่อติดตามและทบทวนการปฏิบัติตามความตกลงฯ และวิเคราะห์โอกาสและแนวทางในการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน
ร่างความตกลงฯ จะไม่จำกัดสิทธิของภาคีคู่สัญญาในการกำหนดมาตรการสั่งห้ามหรือตั้งข้อจำกัดใด ๆ เพื่อการปกป้องศีลธรรมอันดีของประชาชน การปกป้องชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช การปกป้องสาธารณะสมบัติของชาติ และ / หรือการป้องกันโรคและศัตรูพืชหรือสัตว์
การระงับข้อพิพาทจะกระทำผ่านการปรึกษาหารือและการเจรจากันระหว่างภาคีคู่สัญญา
สำหรับอีกฉบับหนึ่งจะมีการลงนามใน “บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของราชอาณาจักรไทยและรัฐสุลต่านโอมานว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข" ซึ่งจะมี รมว.ต่างประเทศเป็นผู้ลงนาม มีสาระสำคัญ ดังนี้ ส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุขในสาขาต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพขั้นปฐมภูมิ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ระเบียบเกี่ยวกับยา การพัฒนาการวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข การเฝ้าระวังโรค การดูแลอนามัยช่องปาก การดูแลไตการแพทย์ฉุกเฉินและการจัดการภัยพิบัติ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น และแลกเปลี่ยนทางวิชาการระหว่างไทยกับโอมาน
สนับสนุนการแลกเปลี่ยนหลักสูตรการฝึกอบรมและการเยือนของผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในสาขาความร่วมมือ
การจัดการด้านการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมความร่วมมือที่อยู่ภายใต้กรอบของบันทึกความเข้าใจนี้จะพิจารณาร่วมกันโดยคู่ภาคีเป็นรายกรณี บนพื้นฐานความสามารถในการจัดหาเงินทุนและทรัพยากร
บันทึกความเข้าใจนี้จะไม่มีผลกระทบต่อข้อผูกพันที่เป็นผลมาจากข้อตกลงทวิภาคีต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงระหว่างสองประเทศ คู่ภาคีจะดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจนี้ที่สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่บังคับใช้ในทั้งสองประเทศ และจะยุติข้อพิพาทจากการดำเนินการหรือการตีความข้อกำหนดใด ๆ ของบันทึกความเข้าใจนี้อย่างฉันท์มิตรโดยการปรึกษาหารือผ่านช่องทางการทูต