นายสมคิด กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของไทยที่จะเข้ามาเจรจาการค้าการลงทุนในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งถือว่าโอมานเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงและกำลังพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งเป็นประตูสู่กลุ่มประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับ จึงได้นำ ครม.ที่เกี่ยวข้องมาด้วย โดยสิ่งที่ไทยและโอมานได้มีการลงทุนร่วมกันอยู่แล้วคือด้านน้ำมัน ขณะเดียวกันโอมานต้องการให้ไทยเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของโอมานที่จะให้สิทธิพิเศษทางการค้าและมาตรการปลอดภาษีให้กับไทย โดยให้ไทยเข้ามาลงทุนการผลิต และนำสินค้าส่งไปขายต่อยังกลุ่มประเทศอาหรับได้
ส่วนการเข้าพบกับประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมของโอมานนั้น ทางโอมานขอให้ไทยเตรียมรายชื่อนักธุรกิจรายใหญ่ไว้ โดยอยากให้ไทยมาลงทุนเรื่องธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพทย์ อุตสาหกรรมยา เวชภัณฑ์ และศูนย์บริการด้านสุขภาพ ทั้งนี้ปัจจุบันไทยและโอมานมีมูลค่าด้านการค้าร่วมกันอยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการตั้งเป้าไว้ให้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันทางโอมานพร้อมส่งนักธุรกิจรายใหญ่มาเยือนไทยในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อแสวงหาลู่ทางในการค้าการลงทุนร่วมกัน
ในโอกาสนี้ได้มีการลงนามเอกสารจดหมายแสดงความสนใจเพื่อเป็นกรอบการเจรจาในการเข้ารวมกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future fund) เพื่อเป็นการสนับสนุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐของไทยด้วย โดยได้มีการมอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลังสานต่อเรื่องดังกล่าว
"โอมานเชิญไทยร่วมทำข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน และขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งไทยได้เห็นประโยชน์จากตรงนี้ เนื่องจากทางโอมานได้ทำเอฟทีเอกับสหรัฐฯ ซึ่งไทยสามารถได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วย" นายสมคิด กล่าว
สำหรับประเทศโอมานเป็นแหล่งน้ำมันอันดับ 4 และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง การค้าระหว่างกันมีมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (แต่มูลค่าการค้าปีล่าสุดลดตามราคาน้ำมัน มูลค่าการค้า 1,257 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปโอมาน ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ อาหาร เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไทยที่เป็นที่ต้องการมากในตลาดโอมาน ได้แก่ ข้าว อาหารกระป๋องและอาหารแปรรูป ผลไม้สดและผลไม้แปรรูป รถยนต์และส่วนประกอบ ขณะเดียวกับโอกาสในภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยวและบริการด้านสุขภาพก็มีศักยภาพสูงมาก นอกจากนี้โอมานมีทรัพยากรทางน้ำที่สมบูรณ์มากเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะแสวงหาโอกาสในการเข้าไปลงทุนด้านการประมง