นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 35.76/77 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.63/65 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวทำ High ที่ 35.77 ตอนปิดตลาด และทำ Low ที่ 35.61
"วันนี้หลังจากผ่าน 35.70 ขึ้นมาได้ ก็ขึ้นมาเร็วเลย คาดว่าน่าจะมีการ Cover Position ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อป้องกันความเสี่ยงก่อนผล กนง.จะออกมา แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าแบงก์ชาติยังไม่น่าจะทำอะไรในช่วงนี้ก็ตาม""นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้ระหว่างที่ยังรอผล กนง. เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.70-35.90 บาท/ดอลลาร์
"ผ่าน 35.70 มาได้ ก็น่าจะกลายเป็นแนวรับ ส่วนแนวต้านน่าจะอยู่แถวๆ 35.85-35.90" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.67 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 120.75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0915 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0920 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,285.30 จุด ลดลง 12.04 จุด, -0.93% มูลค่าการซื้อขาย 45,479.33 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 657.88 ลบ.(SET+MAI)
- นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 2.733 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่ประมาณการรายได้ไว้ที่ 2.343 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีงบประมาณ 59 ส่งผลให้เป็นงบประมาณขาดดุล 3.9 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ 2559 ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 60 เติบโต 4% เงินเฟ้อที่ระดับ 2%
- นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย (CSI) พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยโดยรวมอยู่ที่ 55 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ดีขึ้นจากปี 57 ที่มี 49 คะแนน และดีที่สุดในรอบ 6 ปีนับจากการสำรวจครั้งแรกในปี 53
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติร่าง พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ซึ่งได้ปรับปรุงกฎหมายฉบับเดิมเมื่อปี 2542 เพื่อให้การแข่งขันเกิดความเป็นธรรม ไม่มีการผูกขาด ลดการแทรกแซงของรัฐบาล และเป็นไปตามหลักสากล สอดคล้องกับข้อตกลงการค้าเสรีที่ไทยทำไว้กับประเทศต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจในเรื่องการลงทุน
- นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีพิเศษด้านบริการการเงิน เปิดเผยว่า รัฐบาลจะติดตามผลพวงของนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีต่อสถาบันการเงินต่างๆ
- ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินอีก 1 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาดการเงินผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (open market operations) ในวันนี้ เพื่อป้องกันวิกฤตสภาพคล่องก่อนวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 5 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ตลาดการเงินในวันนี้ ผ่านข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ระยะ 14 วัน และอีก 5 หมื่นล้านหยวนผ่าน reverse repo ระยะ 28 วัน
- ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยับขึ้นเพียง 0.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินฝืด เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 1% เป็นเวลานานติดต่อกันหลายเดือน
- ธนาคารกลางอินเดียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 6.75% ในการประชุมวันนี้ โดยธนาคารกลางชะลอการปรับอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่ารัฐบาลจะเปิดเผยงบประมาณในเดือนนี้
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์ (EDB) เปิดเผยว่า การลงทุนในปี 2558 มีความสอดคล้องหรือสูงกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาล และคาดว่าจะชะลอลงในปี 2559 อันเนื่องมาจากอุปสงค์โดยรวมทั่วโลกที่ยังคงอ่อนแอ
รายงานของ EDB ระบุว่า การลงทุนในปีที่ผ่านมาส่งผลให้มีการจ้างงาน 16,800 ตำแหน่ง เมื่อมีการดำเนินการตามโครงการต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ