โดยหลังลงนามสัญญา กรมทางหลวงจะเริ่มทยอยส่งมอบพื้นที่ได้ในปลายเดือนก.พ.นี้ หลังจากนั้น 15 วัน ผู้รับเหมาจะเบิกเงินงวดแรก 15% ได้ โดยระยะเวลาก่อสร้างตลอดสาย 3 ปี จะแล้วเสร็จในปี 2562 ซึ่งได้กำชับผู้รับเหมาให้เร่งรัดการก่อสร้างตามแผน เพราะหากเปิดให้บริการได้เร็วจะทำให้การเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ สำหรับงานก่อสร้าง 5 สัญญา ประกอบด้วย ตอนที่ 1 บริษัท ชัยนันท์ค้าวัสดุก่อสร้าง (2524) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ช่วง กม. 2+300 – กม. 5+500 ระยะทาง 3.2 กม. ระยะเวลาก่อสร้าง 780 วัน มูลค่าโครงการประมาณ 743 ล้านบาท , ตอนที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดแพร่วิศวกรรม เป็นผู้รับจ้าง กม. 10+850 – กม. 13+900 ระยะทาง 3.05 กม. ระยะเวลาก่อสร้าง 750 วัน มูลค่าโครงการประมาณ 622 ล้านบาท, ตอนที่ 6 บริษัท เอส.เค.วาย. คอนสตรัคชั่น วิศวกรรม จำกัด เป็นผู้รับจ้าง กม. 16+150 – กม. 21+450 ระยะเวลาก่อสร้าง 690 วัน มูลค่าโครงการประมาณ 894 ล้านบาท, ตอนที่ 8 บริษัท วนิชชัยก่อสร้าง (1979) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง กม. 24+700 – กม. 26+800 ระยะทาง 2.1 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 720 วัน มูลค่าโครงการประมาณ 704 ล้านบาท, ตอนที่ 9 บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง กม. 26+800 – กม. 29+675 ระยะทาง 2.875 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน มูลค่าโครงการประมาณ 801 ล้านบาท
ส่วนมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท ได้เริ่มประมูลแล้ว รวมถึงการจดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติม ส่วนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 55,620 ล้านบาท อยู่ระหว่างทบทวนปรับปรงรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) เดิม คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปีนี้ ส่วนการประมูลตอนไหนไม่ติดปัญหาจะทยอยเปิดประมูลคู่ขนานไปตั้งแต่กลางปีนี้
รมว.คมนาคม กล่าวว่า มอเตอร์เวย์ พัทยา – มาบตาพุด ใช้เงินจากกองทุนค่าธรรมเรียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ก่อสร้าง ส่วนส่วนบางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรี สำนักงบประมาณเตรียมจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอเปลี่ยนแปลง แหล่งเงินจากการใข้เงินกู้มาเป็นงบประมาณแทน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นชอบเบื้องต้นแล้ว โดยสายบางปะอิน-โคราช จะได้รับการจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป