นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 35.53 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวตามภูมิภาคในกรอบระหว่าง 35.50-35.58 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
ทิศทางทรงตัวค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากตลาดเอเซียบางประเทศเป็นวันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน
"บาทเคลื่อนไหวตามภูมิภาค แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา วันนี้ปิดตลาดแข็งค่าสุดของวัน" นักบริหารเงิน กล่าว
ตลาดจับตาดูการแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธ
นักบริหารเงินคาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 35.45-35.60 บาท/ดอลลาร์
"ไม่น่าจะแข็งค่าไปมากกว่านี้ ตลาดคงรอดูประธานเฟดแถลงต่อสภาคองเกรสในวันพุธ" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 117.13 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1173 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1144 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,307.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด, +0.10% มูลค่าการซื้อขาย 27,024.27 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 45.42 ล้านบาท (SET+MAI)
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยได้รายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยและภาคการส่งออกให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง รับทราบ โดยยืนยันตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะขยายตัวได้ 3.7% ตามเป้าหมาย บนพื้นฐานการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้
- สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ประเมินว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ในปี 59 จะมีโอกาสแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,501 จุด โดยได้รับผลดีจากปัจจัยภายในประเทศเข้ามาสนับสนุนบรรยากาศการลงทุน พร้อมประเมิน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ของไทยในปี 59 จะอยู่ที่เฉลี่ย 3.3% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.8%
- น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยแนวโน้มการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2559 บริษัทชั้นนำของโลกหลายรายมีแผนจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งการขยายการลงทุนของบริษัทที่มีฐานการผลิตในไทย และโครงการลงทุนของนักลงทุนรายใหม่
- นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) เผยที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เห็นชอบในหลักการแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยขั้นตอนต่อไปจะจัดประชุมชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเพื่อนำมาปรับปรุงให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน มี.ค.นี้
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เผย จะดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบรัดกุมต่อไป พร้อมกับหาจุดสมดุลระหว่างการคุมเข้มและการผ่อนคลายทางการการเงิน โดย PBOC เปิดเผยในรายงานนโยบายการเงินประจำไตรมาส 4/2558 ว่า PBOC จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถรองรอบสถานการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ อาจจะมีการปรับนโยบายในจังหวะที่เหมาะเจาะ และจะมีการกระตุ้นอุปสงค์ให้มีการสอดคล้องกับมาประยุกต์ใช้กับการปฏิรูปภาวะอุปทาน
- สมาคมทองคำจีน เผยผลผลิตทองคำรายปีของจีนลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2558 เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาทองในตลาดโลก โดยจีนสามารถผลิตทองคำได้ 450 ตันในปีที่ผ่านมา ลดลง 0.39% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากราคาทองในตลาดโลกร่วงลงไปเกือบ 40% ตั้งแต่เดือน เม.ย.56 ส่งผลกระทบต่อกำไรของผู้ผลิตและผลผลิต แต่จีนยังสามารถรักษาตำแหน่งประเทศผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกติดต่อกัน 9 ปี และการซื้อทองคำก็ฟื้นตัวขึ้นได้เมื่อปีที่แล้ว
- นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า ทางธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่พบข้อบ่งชี้ใดๆ ที่ระบุว่าบุคลากรของธนาคารจงใจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัวขึ้นกว่า 6 เท่าในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สู่ระดับ 16.64 ล้านล้านเยน (1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากยอดการนำเข้าน้ำมันดิบทรุดฮวบลง ท่ามกลางเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าวปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง 10.3% สู่ระดับ 75.82 ล้านล้านเยน ส่วนยอดส่งออกปรับขึ้น 1.5% สู่ระดับ 75.18 ล้านล้านเยน
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจ ปรับตัวลดลงในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการร่วงลงของตลาดหุ้น ประกอบกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน