นายกฯ วางแผนยุทธศาตร์ชาติ 20 ปึ มุ่งปฏิรูปต่อเนื่อง วอนรบ.หน้ายึดตาม

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday February 13, 2016 10:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายกา"รคืนความสุขให้คนในชาติ"ว่า เรื่องการปฏิรูปเป็นเรื่อสำคัญ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี(ปี 59-79)ไว้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทุก 5 ปี นโยบายความมั่นคงของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ทั้งนี้แผนปฏิรูปในช่วง 1-5 ปีต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี โดยขณะนี้ดำเนินการตามแผนปฏิรูป ระยะที่ 1 ซึ่งรัฐบาลได้นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 ดังนั้นการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศให้ได้ตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก
"วันนี้เรากำลังสร้างความเข้มแข็งของประเทศ วางพื้นฐานทั้งหมด เหลือเวลาของผมอีกประมาณ ปีกว่า ๆ ถึงปี 2560 หลังปี 2560 ไปแล้ว เป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 เต็ม ๆ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องวางว่าปี 2560-64 จะเป็นยังไง 70-74 เป็นยังไง 75-79 จะเป็นอย่างไร นั้นคือยุทธศาสตร์ 20 ปี แล้วมองย้อนกลับมาว่าเราจะทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แผน 12 – 15 ได้อย่างไร เพื่อเป็นการประเมินผลความคืบหน้าในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลทุกรัฐบาล ถอยหลังมาทุก 5 ปี แล้วกำหนดเป้าหมายไว้ล่วงหน้า แล้วมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลต่อ ๆ ไป ในลักษณะที่จะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้อง"

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปประเทศนั้น อย่าใจร้อนมาก เพราะว่ามหาอำนาจบางประเทศผมไม่อาจจะกล่าวนามได้ยังไม่หยุดการปฏิรูปเลยวันนี้ เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีรายได้น้อยมากกว่าเราอีก แต่ส่วนรวยคือรวย ส่วนตรงกลางก็ตรงกลาง แต่เขามากกว่าเรา เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตาม เขาต้องพัฒนาไปสู่ข้างล่างเพราะว่าเป็นสาเหตุของการที่มีความขัดแย้ง หรือความเหลื่อมล้ำในสังคม ในเรื่องของอาชีพ รายได้ ทำให้มีช่องว่างในการพัฒนา ประชาชนอาจจะไม่มีความสุขถ้าเขามีรายได้น้อย หนี้สิ้นมาก บ้านเราก็เป็นมาก เรื่องที่ผมกล่าวนี้ เราต้องแก้ปัญหา แล้วก็ไม่ใช่แก้ทั้งหมดที่เดียว มันแก้ไม่ได้ เพราะงบประมาณจำนวนมาก เราต้องทำทั้งระดับบน-กลาง-ล่าง คือรวยมาก รวยน้อย ตรงกลาง มาถึงรายได้น้อย จะต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อยู่ในวงจรที่เรียกว่า “ห่วงโซ่คุณค่า" ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เกื้อกูลต่อกัน พี่จูงน้อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราต้องเข้มแข็งจากทั้งภายในประเทศ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ก็คือชุมชน จังหวัด เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย แล้วก็ไปต่างประเทศ เราต้องร่วมมือกันทำงานกันแบบ “ประชารัฐ" ในทุก ๆ อย่าง ทั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิบัติงานในพื้นที่ ความร่วมมือของทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันให้ได้ เพราะฉะนั้น ผมอยากเรียนถึงบรรดากลุ่ม NGO ทั้งหมด ขอความกรุณาต้องเข้าใจ ว่าบางอย่างนั้นเราต้องเดินหน้าประเทศ เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนได้พิจารณาดูให้ถ่องแท้ว่า สิ่งที่ทำไปนั้นมีประโยชน์กับใคร หรือทำให้ใครเสียประโยชน์และอะไรมาก อะไรน้อย แล้วจะแก้ปัญหาที่เสียประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ส่วนใหญ่จะได้มาเพื่อส่วนรวมหรือไม่ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านต้องพิจารณาใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาทั้งหมด แล้วท่านก็บอกว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรไม่ได้เลย ทุกรัฐบาลทำไม่ได้หมด เพราะว่าขัดแย้งกัน ไปในตัวอยู่แล้ว โดยปัจจัยพื้นฐาน บางอย่างต้องเปลี่ยนแปลง บางอย่างต้องมีการเปลี่ยนวิธีการถ้าท่านบอกว่าเอาพื้นฐานเดิมมาหมด ก็ไม่ได้ มีการต่อต้าน ขัดแย้งกันทั้งหมด ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ประเทศก็ไปไม่ได้ เรามีผู้มีรายได้น้อยอยู่แบบนี้ตลอดเวลา

"รัฐบาลนี้จะทำแผนระยะยาวไว้ 20 ปี แผนที่ว่าไม่ใช่แผนที่จะต้องลงละเอียด บังคับท่านไม่ได้ แต่จะเป็นกรอบที่จะต้องเป็นเข็มทิศนำทางที่ ผมเรียนท่านแล้ว เป็น Road Map ในทุกเรื่อง ในนั้นจะบรรจุเรื่องของแผนปฏิรูปไว้ด้วย ให้สอดคล้องกับแผนตรงนี้ สภาพัฒน์ฯ ก็ทำแผน 5 ปี สอดคล้องกับตรงนี้ ทุก 5 ปี ก็เปลี่ยนได้ ยุทธศาสตร์ที่ว่านี้ ถ้ามีความจำเป็น เช่น ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วันนี้ต้องรู้แล้วว่าประเทศไทย 20 ปีข้างหน้าจะเดือดร้อนอะไร วันนี้เราเดินมาเท่าไรแล้ว เราต้องเดินอะไร ระยะที่เหลือ ทุก 5ปี ๆ หรือทุกปีที่เป็นเรื่องของท้องถิ่น นี่แหละถึงจะไปสู่การกระจายอำนาจ การใช้จ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ"

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากรัฐบาลหน้าที่มาจากการพรรคการเมืองก็ขอให้แยกแยะว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ของชาติ อะไรคือนโยบายพรรค อะไรคือนโยบายรัฐบาล อะไรคือประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศเป็นไปตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้คือความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ประชาชนเป็นศูนย์กลาง แก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ เพิ่มความเท่าเทียม ความเป็นธรรม ประชาชนทุกคนได้เห็นอนาคต 20 ปีข้างหน้า คือเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมา ปี 2560 นี้ เกิดมาพร้อมแผน 12 เขาจะได้รู้ว่า 20 ปีข้างหน้า เขาเรียนหนังสือ จบปริญญาตรีแล้วเขาจะเห็นอะไรในประเทศเขา เขาจะได้คิดว่าจะเรียนหนังสือยังไง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างไร เพื่อจะไปสู่จุด ๆ นั้นเมื่อเขาจบปริญญาตรี อายุ 19 -20


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ