1. สิทธิความจุความถี่ ทั้งสองฝ่ายตกลงปรับปรุงความจุความถี่ ดังนี้
1) เพิ่มความจุความถี่ของฝ่ายรัสเซียให้ทำการบินมายังกรุงเทพฯ และฝ่ายไทยให้ทำการบินไปยังกรุงมอสโก จากเดิม 42 เที่ยว/สัปดาห์ เป็น 70 เที่ยว/สัปดาห์
2) เพิ่มความจุความถี่ของฝ่ายรัสเซียให้ทำการบินมายังภูเก็ต และฝ่ายไทยให้ทำการบินไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จากเดิม 14 เที่ยว/สัปดาห์ เป็น 28 เที่ยว/สัปดาห์
3) เปลี่ยนแปลงจุดในประเทศไทย จากเชียงใหม่ เป็นกระบี่ และเปลี่ยนแปลงจุดในรัสเซีย จาก เออร์กุสต์ เป็น โนโวซีเบียร์สค โดยให้ทำการบินไปยังโนโวซีเบียร์สคและกระบี่ได้ 7 เที่ยว/สัปดาห์
ทั้ง 3 กรณี ทำให้เห็นว่าการท่องเที่ยวและการเดินทางรัสเซียมาไทยดีขึ้น
4) สำหรับความจุความถี่ของฝ่ายรัสเซียในการทำการบินมายังอู่ตะเภา และของฝ่ายไทยในการทำการบินไปยังวลาดิโวสต็อค ยังคงให้ทำการบินไม่จำกัดความจุความถี่ไว้เช่นเดิม
2. ใบพิกัดเส้นทางบิน ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงปรับปรุงใบพิกัดเส้นทางบิน โดยเปลี่ยนแปลงจุดในไทยจากเชียงใหม่ เป็น กระบี่ และจุดในประเทศรัสเซียจากเออร์กุสต์ เป็นโนโวซีเบียร์สค
3. การแก้ไขความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างไทย-รัสเซีย คณะผู้แทนทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแก้ไขความตกลงฯ ข้อ 6 ทั้งในฉบับภาษารัสเซียและไทย ให้ตรงตามฉบับภาษาอังกฤษ เป็นภาคีคู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีสิทธิกำหนดสายการบินได้หลายสาย ตามที่ระบุไว้ในความตกลงฯ และ ข้อ 14 เรื่อง พิกัดอัตราค่าขนส่ง โดยใช้ร่างมาตรฐานความตกลงฯ ของไทยเป็นหลัก
4. การใช้อากาศยานเช่ามาทำการบิน คณะผู้แทนไทยเสนอขอแก้ไขเกี่ยวกับกรณีการใช้อากาศยานที่มีเครื่องหมายสัญชาติและทะเบียนของประเทศที่สามมาทำการบิน ในข้อ 8 บันทึกความเข้าใจลับฯ ฉบับลงนามวันที่ 8 ธันวาคม 2536 โดยเปลี่ยนจากที่ให้สายการบินที่กำหนดของทั้งสองประเทศสามารถใช้อากาศยานเช่ามาทำการบินจากประเทศที่สามที่ทั้งสองมีความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศด้วย เท่านั้น เป็น สามารถเช่าได้จากบริษัทใด ๆ ก็ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าอากาศยานนั้นจะอยู่ในใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศของสายการบินที่กำหนด ทั้งนี้ การใช้อากาศยานเช่าแบบพร้อมลูกเรือจะไม่ได้รับการอนุญาต
5. สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงที่จะนำเรื่องนี้กลับมาหารือกันในการเจรจาการบินครั้งต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมีผลกระทบต่อสาย การบินที่กำหนดของทั้งสองฝ่าย
6. ข้อตกลงด้านความร่วมมือทางการตลาด รัสเซียเสนอให้ยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับการทำการบินโดยใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน โดยฝ่ายไทยเห็นว่า ยังมีความไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายจึงตกลงว่าจะทำมาหารือในการเจรจาการบินครั้งต่อไป
ผลการเจรจาการบินระหว่างไทย – รัสเซียในครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงข้อบทในความตกลงฯ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายภายในของทั้งสองฝ่ายและสภาพการบินในปัจจุบัน
สำหรับการปรับปรุงสิทธิการบินต่างๆ จะทำให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการให้บริการ และเปิดโอกาสให้สามารถขยายบริการไปยังจุดต่าง ๆ ได้มากขึ้น และแม้ว่าปัจจุบันสายการบินของไทยจะยกเลิกการทำการบินไปยังรัสเซียแล้วก็ตาม หากสายการบินของไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพพอก็จะสามารถทำการบินไปยังรัสเซียได้ทันที นอกจากนี้ การที่สายการบินของรัสเซียทำการบินมายังประเทศไทยจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยที่ชาวรัสเซียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝากว่าอยากเห็นสายการบินของไทยไปรัสเซียมีความเป็นรูปธรรม โดยน่าจะมี 4 เที่ยว หรือ 2 เที่ยวบินก็ยังดี ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง