ผลการเปิดซองเสนอราคาซื้อปรากฏว่ามีผู้มายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป จำนวน 25 ราย โดยมีผู้เสนอราคาที่เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 15 ราย ใน 35 คลัง ปริมาณ 152,377 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 74 ของปริมาณที่เปิดประมูล) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,783 ล้านบาท ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 83,233 ตัน คิดเป็นร้อยละ 55 รองลงมาได้แก่ ปลายข้าว A1เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ ปลายข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี ข้าวท่อนปทุมธานี และปลายข้าว (เหนียว) A1 ตามลำดับ
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) จะเปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติสำหรับการประมูลข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม จำนวน 16 ราย ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ปริมาณ 3.6 แสนตัน เป็นข้าว 7 ชนิดที่คุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด C) ประกอบด้วย ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 119 คลัง ใน 28 จังหวัด
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ผู้เสนอซื้อสูงสุดสำหรับการประมูลทั้ง 2 แบบ กรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการรวบรวมผลให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐพิจารณาก่อนนำเสนอให้ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อไป