"ในช่วง 3 เดือนแรก กรมฯ จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการไปแล้วถึง 2.7 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี โดยมองว่าเครื่องมือจากภาษีของกรมสรรพสามิตจะเข้ามาเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ของรัฐบาลในช่วง 5-10 ปีจากนี้ โดยการจัดเก็บน่าจะขยับสูงขึ้นถึง 8 แสนล้านบาท และในปีงบประมาณ 2560 กรมฯ ได้รับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้อยู่ที่ 5.25 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ และการบริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต" นายสมชาย กล่าว
อธบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 59 ยังต้องติดตามสถานการณ์ในตลาดรถยนต์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลต่อการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ซึ่งขยายตัวได้ดีตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยผลของการปรับขึ้นภาษีรถยนต์ใหม่ ทำให้มีกำลังซื้อกระจุกตัวในช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก แต่จากการหารือกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงคาดการณ์ว่า การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปี 59 จะอยู่ที่ 8 แสนคัน และส่งออกไปต่างประเทศอยู่ที่ 1.2 ล้านคัน ภายใต้กำลังการผลิต 2 ล้านคัน
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาการจัดเก็บภาษีตัวใหม่ ๆ และการปรับปรุงภาษีที่สำคัญ โดยเฉพาะภาษีสินค้าที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพ ทำลายสิ่งแวดล้อม และการพนัน ในส่วนนี้ต้องดูให้ครอบคลุมทั้งระบบ ส่วนจะมีการปรับขึ้นภาษี หรือจัดเก็บภาษีใหม่ ๆ อย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายจะตัดสินใจเอง การศึกษาในส่วนนี้เพื่อเตรียมความพร้อมหากฝ่ายนโยบาย หรือกระทรวงการคลังต้องการข้อมูลเท่านั้น
อธิบดีกรมสรรพสามิต คาดว่า พ.ร.บ.สรรพสามิตฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ภายในต้นปีหน้า จากปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา และน่าฝ่ายการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาได้ภายในเดือน พ.ค.นี้