นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยระบุว่า ต้องการเห็นการขับเคลื่อนการปฏิรูปการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืนใน 3 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย 1.การสร้างการเติบโตจากภายในด้วยการพัฒนาและสร้างแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนให้มีความหลากหลายและมีคุณภาพมากขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปจัดหาแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการให้มีการพัฒนารวมถึงเรื่องของงบประมาณที่จะต้องดำเนินการ พร้อมกันนี้จะมีการนำงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้วย
2.มอบหมายให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไปจัดทำแผนงานการท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนหรืออาเซียนคอนเนค โดยให้มีการจัดทำเป็นแพ็คเกจการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนมาเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้นและเป็นการขยายฐานนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนด้วย พร้อมทั้งให้มีการหารือกับทุกสายการบินในประเทศในการจัดเส้นทางรวมถึงการหาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆในกลุ่มอาเซียนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งอยากจะเห็นแผนงานที่ชัดเจนภายในเดือนมิถุนายนนี้
และ 3.โครงการไทยเที่ยวไทยซึ่งทางการท่องเที่ยวประเทศไทยจะมีการจัดแพ็คเกจภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การมอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ถือเป็นการชี้เป้าให้เห็นถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ครบวงจรและให้เป็นมาตรฐานและสร้างความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว พร้อมทั้งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้
สำหรับการท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียน เชื่อว่าทุกสายการบินจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองจากประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
ส่วนกรณีปัญหาที่มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนเข้ามาท่องเที่ยวในรูปแบบรถบ้านเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก นางกอบกาญจน์ระบุว่า ในวันศุกร์นี้จะมีการหารือกับกรมขนส่งทางบกเพื่อมีการจัดระเบียบรถบ้าน โดยนักท่องเที่ยว เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีฐานะดี ซึ่งก็เชื่อว่าหากมีการจัดระเบียบได้ดีจะมีส่วนช่วยในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนได้มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายของการท่องเที่ยวในปี 2559 ยังคงตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 2.3 ล้านล้านบาท แต่ทางกระทรวงจะพยายามที่จะผลักดันให้รายได้การท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 2.4 ล้านล้านบาท เพื่อจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ พร้อมทั้งจะเน้นการท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพโดยตั้งเป้าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งจากครั้งละ 5,072 บาทเป็น 5,100 ถึง 5,200 บาท และเพิ่มจำนวนเข้าพักจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 9.5 วันให้เป็น 10-11 วัน